Friday, 20 September 2024

จบด้วยดี มนต์รักศาลาริมทาง หนุ่มไม่เอาเรื่อง สาวคู่สวาทฉกกว่าหมื่น

มนต์รักศาลาริมทาง หนุ่มเจอสาว เข้าไปพูดคุย ซื้อเหล้าเลี้ยงจากนั้นพาเข้ารีสอร์ต เสร็จกิจพาไปกินเนื้อย่าง เมื่อขับรถออกพบว่าเงินหายไปกว่า ๑ หมื่น สาวอ้างหน้าตาเฉยเป็นของตัวเองที่หยอดกระปุกไว้ ล่าสุดเรื่องจบด้วยดี ตำรวจ สภ.ประจักษ์ศิลปาคม ช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย ก่อนพาหญิงสาวส่งกลับบ้านญาติวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๖๗ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ อำเภอประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี หลังได้ทราบจาก พ.ต.ท.นิรันดร์ ปัสสาโท สว.(สส) สภ.ประจักษ์ศิลปาคม ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนเวรประจำวันได้สอบสวนผู้ชาย ชื่อ นายเมฆินทร์ อายุ ๓๘ ปี ชาว อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี หนึ่งในคู่กรณี “มนต์รักศาลาริมทาง”จากการสอบสวน นายเมฆินทร์ ทราบว่า ตนมีอาชีพเก็บของเก่าขาย รู้จักสาวคนหน่งที่ศาลาริมทางในตอนเช้า ซื้อเหล้ามาดื่มด้วยกัน จากนั้นพาไปรีสอร์ต มีอะไรกัน จนช่วงบ่ายก็พาสาวคนนี้ไปกินหมูกระทะในตัวเมือง พอขี่รถมาถึงด่านชั่งน้ำหนัก อ.กุมภวาปี สังเกตว่าเงินในกระเป๋าเสื้อหาย จึงจอดรถแล้วสอบถามหญิงสาว ซึ่งเขาก็ปฏิเสธ พร้อมกับลงจากรถวิ่งหนี จึงไล่ตามไป ชาวบ้านคิดว่าไล่ทำร้ายผู้หญิงจนเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น ด้าน พงส. บอกว่า พบคู่กรณีหน้าปั๊มน้ำมัน ซึ่งอยู่ในเขตรับผิดชอบของ สภ.ประจักษ์ศิลปาคม ชายขี่รถ จยย.สีแดง จอดริมทาง มีสีหน้าเคร่งเครียด ทราบชื่อคือ นายเมฆินทร์ อายุ ๓๘ ปี และผู้หญิงชื่อ น.ส.กิ๊ก บอกว่าถูกหญิงสาวที่เพิ่งรู้จักกันที่ศาลาริมทางขโมยเงินไป โดยหญิงคนนี้ชื่อเล่นว่ากิ๊ก อายุ ๓๖ ปี ฉกเอาเงินในกระเป๋าเสื้อไปประมาณหมื่นกว่าบาท ขณะพานั่งซ้อนรถ จยย.จะไปกินหมูกระทะแต่เมื่อไปถึงโรงพัก หญิงสาว บอกว่า ตนไม่ได้ขโมยเงินผู้ชายคนนี้ อ้างว่าระหว่างเดินริมถนน ชายคนนี้มาวิ่งราวดึงกระเป๋าไป ส่วนเงินตนเก็บออมหยอดกระปุก และไม่เคยซ้อนท้ายรถ จยย.ชายคนนี้แต่อย่างใด ก่อนที่ทั้งคู่จะตอบโต้กันไปมาอย่างดุเดือด นายเมฆินทร์ บอกว่า เงินหมื่นกว่าบาท ตนเก็บของเก่าขาย เก็บเล็กผสมน้อยกว่าจะได้ อยากกินเหล้าตนก็ซื้อให้กินแล้ว พอเขาฉกเงินทำให้โมโห ถามเขาก็ไม่ยอมรับ อ้างว่าเป็นเงินของเขาหยอดกระปุกเอาไว้ ตนก็ไม่ยอม มันน่าเจ็บใจจริงๆ รู้จักกันแค่วันเดียวดันมาขโมยเงิน จากนั้นตำรวจได้ขอตรวจสอบกระปุกออมสินของฝ่ายหญิงที่อ้างว่าหยอดเงินไว้ ก็พบเงินประมาณ ๖,๐๐๐ บาท ขณะที่ตำรวจอธิบายว่า ลักษณะเงินในกระปุกเป็นการหยอดเงินใส่ ไม่ใช่ทีละใบ แต่เอาเงินธนบัตรใส่ไปในครั้งเดียว พนักงานสอบสวนเวรได้เจรจา ไกล่เกลี่ย ฝ่ายชายจึงไม่เอาเรื่อง และขอเงินส่วนที่เหลือ ส่วนเงินที่หายไปก็ไม่ติดใจเอาความ เมื่อตกลงกันได้ตำรวจได้พาหญิงสาวไปส่งที่บ้านทับล้อ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยที่ต้องเดินทางไปคนเดียวตอนกลางคืนอย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านทับล้อ สอบถามชาวบ้านในละแวกนั้น ไม่มีคนรู้จักหญิงในรูปภาพ กระทั่งมีคนในหมู่บ้านบอกว่ารู้จัก อยู่กับญาติ ไปๆ มาๆ บ้านอยู่ตรงหัวสะพาน จึงไปที่บ้าหลังดังกล่าว มีรถ จยย.จอดอยู่ ประตูปิด มีรองเท้าถอดวางอยู่ ๒ คู่ เมื่อร้องเรียกถูกคนอยู่ด้านในบ้านตะโกนด่าออกมา จึงต้องถอย