นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยถึงแผนปฏิบัติราชการ พ.ศ.๒๕๖๘ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าเป็นการบูรณาการร่วมทุกหน่วยงานในสังกัด จัดทำขึ้นโดยเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๓ และนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา ประกอบกับการวิเคราะห์บริบทต่างๆ ในภาคการเกษตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้แผนปฏิบัติราชการดังกล่าว มีความครบถ้วนสมบูรณ์ และใช้เป็นกรอบแนวทางหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินการพัฒนาภาคการเกษตรได้อย่างเป็นรูปธรรม และเป็นแนวทางในการจัดทำแผนงานโครงการสำหรับเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปี ๒๕๖๘ เพื่อให้การขับเคลื่อนสัมฤทธิ์ผล และมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายระดับชาติต่อไป “แผนปฏิบัติราชการนี้ รัฐมนตรีว่าการเกษตรฯ ได้เห็นชอบ และประกาศใช้เมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคมที่ผ่านมา โดยกำหนดวิสัยทัศน์ คือ “เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ ๑๐ ต่อปี” โดยมีประเด็นการพัฒนา ๕ ประเด็น ได้แก่ ๑.เสริมสร้างความมั่นคงทางการเกษตร มุ่งเน้นป้องกันและแก้ปัญหาที่กระทบต่อความมั่นคงด้านอาหาร ๒.ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันภาคเกษตร เน้นเกษตรมูลค่าสูง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตร สร้างความเข้มแข็งให้สถาบันเกษตรกร และพัฒนาการเกษตรในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ๓. สร้างความเสมอภาคและกระจายความเท่าเทียมทางสังคมเกษตร โดยเสริมสร้างทุนทางสังคม รองรับสังคมเกษตรสูงวัย ยกระดับผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร และพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ๔. บริหารจัดการทรัพยากรการเกษตรและสิ่งแวด ล้อมอย่างสมดุลยั่งยืน โดยสร้างการเติบโตบนสังคมเศรษฐกิจสีเขียว และการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ และ ๕.พัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐและงานวิจัยด้านการเกษตร เน้นพัฒนารูปแบบการให้บริการประชาชน พัฒนาบุคลากร และส่งเสริมการวิจัย พัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในภาคการเกษตร” เลขาธิการ สศก. เผยอีกว่า การจัดทำแผนปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.๒๕๔๖ และ ๒๕๖๒ โดยยึดหลักแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อการบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ คือ การมองเป้าหมายร่วมกัน การวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่าการจัดลำดับความสำคัญ และการจัดทำแผนปฏิบัติราชการ“สำหรับแผนปฏิบัติราชการ พ.ศ.๒๕๖๘ ของกระทรวงเกษตรฯ กำหนดเป้าหมายสำคัญ อาทิ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศสาขาเกษตรเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ ๓ ผลิตภาพการผลิตของภาคเกษตรเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ ๑ รายได้เงินสดสุทธิครัวเรือนเกษตรเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ ๑๐ และครัวเรือนเกษตรได้รับประโยชน์จากการบริหารจัดการน้ำรวม ๒.๑๔ ล้านครัวเรือน”. คลิกอ่าน “ข่าวเกษตร” เพิ่มเติม
Related posts