Saturday, 28 December 2024

ส.ป.ก.ฮุบเขาใหญ่ ยันผิดชัดเจน ชี้มีคําพิพากษาแล้ว พัชรวาทปัดขัดแย้ง รอเคลียร์ธรรมนัส

20 Feb 2024
106

“พัชรวาท” นัดคุย “ธรรมนัส” เร่งหาทางออกหมุดนิรนาม ส.ป.ก. ๔-๐๑ ในพื้นที่เขาใหญ่ ชี้เรื่องใหญ่ต้องเร่งจัดการให้โปร่งใส-ตรงไปตรงมา ยัน ๒ กระทรวง ไม่มีความขัดแย้ง ด้านหัวหน้าผู้ตรวจกระทรวงทรัพยากรฯชี้ ส.ป.ก.ผิดชัดเจนออก ส.ป.ก.ในป่าธรรมชาติสมบูรณ์ แถมทับซ้อนกับแปลงปลูกป่าของหน่วยจัดการต้นน้ำลำตะคอง ที่มีคำพิพากษาลงโทษผู้รุกมาแล้ว เผยกรมอุทยานฯสั่งสำรวจป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศ ถ้าเจอให้ประสาน ส.ป.ก.เพิกถอนหรือแจ้งความ ขณะที่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา แจงขั้นตอนเป็นเรื่องที่ส่วนกลางตรวจสอบ อ้างเป็นป่าไม้ที่ชาวบ้านเคยทำประโยชน์อยู่แล้ว แต่ถ้าผิดพลาดก็พร้อมยอมรับจากกรณีมีการพบหมุด ส.ป.ก.๔-๐๑ ในพื้นที่เขาใหญ่ บริเวณด้านในถนนแนวกันไฟ บ้านเหวปลากั้ง หมู่ ๑๐ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นผืนป่าดงพญาเย็นเขาใหญ่ มรดกโลกทางธรรมชาติ กินพื้นที่กว่า ๒,๙๓๓ ไร่ ทำให้เกิดข้อกังขาว่าหมุดดังกล่าวมาได้อย่างไร ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๙ ก.พ. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ตนจะเชิญ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว. เกษตรและสหกรณ์ มาหารือร่วมกัน เพราะเป็นปัญหาของแนวเขตที่มีการทับซ้อนกันทั้ง ๓ หน่วยงาน ทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ และ ส.ป.ก.ว่าจะมีแนวทางต่อกรณีนี้อย่างไร คาดว่าจะหารือกันในช่วงเช้าวันที่ ๒๐ ก.พ. ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ต้องเร่งหาข้อยุติให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องใหญ่ สังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ต้องทำให้เกิดความโปร่งใส ตรงไปตรงมา รวมทั้งจะพิจารณาตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อเรียกร้องด้วย“ยืนยันว่า ทส.กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งกัน แต่อาจจะมีจุดเล็กจุดน้อยในรายละเอียดที่ตกหล่น แต่ท้ายที่สุดต้องยึดตามข้อมูล หลักฐานข้อเท็จจริงที่เชื่อว่ามีเพียงหนึ่งเดียวและสามารถพิสูจน์ได้ ขอให้ประชาชนวางใจ” พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวและว่าขอขอบคุณภาคประชาชนกลุ่มอนุรักษ์ฯ ที่ห่วงใยว่ากรณีดังกล่าวจะกระทบต่อการเป็นมรดกโลกของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทส.ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการติดตามและลงตรวจสอบพื้นที่อยู่เสมอ รวมไปถึงอุทยานอื่นๆ หากพบมีการบุกรุกต้องดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดด้านนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าผู้ตรวจราชการ ทส.ในฐานะกำกับดูแลกรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดเผยว่า หลักหมุด ส.ป.ก.เพื่อออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. ๔-๐๑ ที่เข้าไปอยู่ป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ๔๒ แปลง ๒,๙๐๐ ไร่ จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าธรรมชาติสมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์ ส่วนเรื่องแนวเขตเป็นองค์ประกอบ เพราะพื้นที่ที่ ส.ป.ก.จะมารังวัดเพื่อออกเอกสารสิทธิจะต้องเป็นป่าเสื่อมโทรม ที่สำคัญบริเวณดังกล่าวถึงไม่อยู่ในพื้นที่อุทยานฯเขาใหญ่ ก็ออกไม่ได้ นอกจากนั้นเมื่อมีการอ่านแปลภาพถ่ายดาวเทียมย้อนหลังและตรวจสอบยังพบว่าพื้นที่ที่ ส.ป.ก.ไปปักหมุดมันไปซ้อนทับกับแปลงปลูกป่าปี ๒๕๑๑, ๒๕๑๓, ๒๕๑๕ ของหน่วยจัดการต้นน้ำลำตะคอง แปลงปลูกป่าบางแปลงมีคำพิพากษาลงโทษผู้รุกมาแล้วและในคำพิพากษาปรากฏความว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก.ไปเบิกความไว้ว่าถ้าเป็นป่าสมบูรณ์ ส.ป.ก.จะไม่รังวัดออกเอกสารสิทธิ ๔-๐๑ ดังนั้นบริเวณดังกล่าวชัดเจนว่า ส.ป.ก.น่าจะออกโดยคลาดเคลื่อน และแม้ ส.ป.ก.จะอ้างว่าแนวเขตของ ส.ป.ก.มาจากกฤษฎีกามาจากการจำแนก แต่ทำภายหลังจากประกาศอุทยานแห่งชาตินายชีวะภาพกล่าวอีกว่า วัตถุประสงค์ของการปักหมุดของ ส.ป.ก.เข้าใจได้ว่าต้องการที่ดิน แต่เชื่อว่าออกโดยคลาดเคลื่อน ส่วนใครจะอยู่เบื้องหลังอยู่ที่การขยายผล เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ที่ออกเอกสารสิทธิต้องชี้แจงว่าทำไมถึงไปออกโฉนดให้ในป่าธรรมชาติสมบูรณ์และเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ของสัตว์ป่า จากนี้ ทส.จะขยายผลไปทั่วประเทศ ขณะนี้กรมอุทยานฯทำหนังสือแจ้งเวียนไปยังป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศ เพราะ ส.ป.ก.อยู่ติดแนวเขตป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศ ถ้าเจอว่ามีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบหรือออกซ้อน ต้องประสาน ส.ป.ก.ให้เพิกถอน หรือต้องไปแจ้งความ เพราะประเมินแล้วน่าจะมีอีกหลายพื้นที่ ต้องรีบดำเนินการ ไม่อย่างนั้น ชาวบ้านที่ถือ ส.ป.ก.๔-๐๑ จะมาอ้างสิทธิ เอาเครื่องจักรหนักไปทำลายต้นไม้ ทำความเสียหายให้กับป่าไม้ ซึ่งยากที่จะเอาคืนกลับมาได้เหมือนเดิมขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ขอสัมภาษณ์นายอัครเดช เรียนหิน ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กรณีพิพาท แต่ให้ข้อมูลของ ส.ป.ก.ในพื้นที่เขาใหญ่ว่าขั้นตอนนี้เป็นเรื่องของทางส่วนกลางของกรม มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ตนคิดว่า คงต้องไปสอบทางกรมดีกว่าในส่วนของเราก็ให้ข้อมูลเข้าไป อย่างไรก็ตามสำนักงานปฏิรูปฯ จ.นครราชสีมา มีการตรวจสอบอยู่ว่าอยู่ในเขตของเราหรือไม่ และอยู่ในอำนาจของเราหรือไม่ และถ้าอยู่ในอำนาจเรา ต้องมาดูว่าเรามีอำนาจในการจัดที่ดินหรือไม่ถ้าอยู่ในพื้นที่เขาใหญ่ ถ้าอยู่ในเขตอุทยานฯจริง ถ้าผิดพลาดก็ยอมรับผิดพลาดนายอัครเดชระบุอีกว่า แต่ถ้าเกิดว่าอยู่ในเขตเราแล้วอุทยานฯเข้ามาได้อย่างไร ต้องมองในมุมนี้ว่าที่เข้ามาคือเขาไล่ชาวบ้านที่ทำกินออก ถามว่าพอไม่ได้ทำประโยชน์ ๑-๒ ปี มันก็เป็นป่า มันไม่ใช่เป็นป่าไม้เศรษฐกิจ มันเป็นป่าไม้ที่ชาวบ้านเคยทำประโยชน์อยู่แล้ว เพราะถ้าใช้แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศย้อนไปมีการทำประโยชน์ ถ้าไม่มีการทำประโยชน์เขาจะส่งมอบให้ ส.ป.ก.ทำไม ถ้ามีสภาพเป็นป่า ถ้าเป็นป่าอนุรักษ์ ป่าต้นน้ำเขาไม่มอบให้อยู่แล้ว เป็นการทำลายป่า แต่ที่เขามอบให้คือชาวบ้านทำประโยชน์ อันนั้นต้องมาดูก่อนว่ามันเขตของใคร เอาให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยว่ากัน ตนไม่มีอะไร คนที่นั่นก็ชาวบ้าน แต่ว่าถ้าจะเอาข้อมูลอะไร ตอนนี้ให้ทางส่วนกลางดำเนินการ เพราะส่วนกลางลงมาตรวจสอบเองแล้ว และจากนี้ไปเขาจะทำอย่างไรเป็นเรื่องของส่วนกลาง ส่วนเราก็ทำงานไปเราไม่ได้มีอะไร เราช่วยเหลือชาวบ้านเป็นปกติ คราวนี้ถ้าเกิดว่ามันเป็นพื้นที่อนุรักษ์ ก็ต้องอนุรักษ์นั่นแหละอยู่แล้ว ถ้าเป็นที่ที่จัดให้ชาวบ้านทำกิน ก็ควรจะเป็นที่ให้ชาวบ้านทำกิน“ถ้าจะอนุรักษ์ อนุรักษ์ในขอบเขตของตัวเองมั้ย ถ้าอยู่ในเขต ส.ป.ก.จริงๆ ณ ปัจจุบัน ผมไม่แน่ใจมันต้องอยู่ที่เจ้ากรมฯ ตอนที่มาตรวจเป็นคนกลาง ถ้าอยู่ในเขตเรา เรามีอำนาจของเราอยู่แล้ว คุณเข้ามาแบบไหน ถ้าใช้หลักกฎหมายมาคุยกัน ถ้าผิดเราก็ต้องยอมรับผิด ผิดพลาดคลาดเคลื่อนมันมีอยู่แล้วในการทำงาน เรายอมรับถ้ามันผิด แต่ถ้ามันอยู่ในเขตเรา ก็เป็นอำนาจเรา แต่ถ้าไม่ใช่อำนาจเราแล้วเราไปทำเพื่อไปเอื้อใคร เราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ทำ อย่างไรก็ตามในส่วนจังหวัดฯ ถ้าจะให้เราชี้แจงจะชี้แจงอะไร อย่างไร แล้วเราดำเนินการอะไรต่อไป เราก็จะชี้แจงให้ผู้บังคับบัญชาทราบ“ นายอัครเดชกล่าวอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่