Thursday, 19 December 2024

สลด แม่ใจยักษ์ทิ้งลูกให้มดกิน ลุงซาเล้งไปเจอร้องไห้จ้า มีหมายืนฝ้า

21 Feb 2024
140

ชาวบ้านคลองยาใต้ อ.หาดใหญ่ ช่วยเหลือเด็กทารกที่โดนแม่ใจยักษ์คลอด นำมาทิ้งในป่ารกข้างริมทางรถไฟ มดขึ้นเต็มตัว ร้องไห้จ้า ดินทราย ใบไม้ ขยะเต็มปาก ยังมีสายสะดือติดอยู่ โดยมีหมายืนเฝ้า ตำรวจตามเจอตัวแม่ใจยักษ์นอนตกเลือดในห้องพัก อ้างท้องไม่มีพ่อ คลอดลูกแล้วกลัวจะเลี้ยงไม่ไหวเลยใส่ถุงนำมาทิ้ง    วันที่ ๒๑ ก.พ. จากกรณีมีผู้ใช้ Facebook ชื่อว่าอาทิตยา ได้โพสต์ข้อความว่า ลุงเป็นคนมาตามบอกว่าได้ยินเสียงดังให้แม่ช่วยไปดู สุดท้ายเป็นเด็กจริงๆ นอนคว่ำหน้า มดกัด ร้องเสียงดังมากๆ แล้วเอาเด็กมาทิ้งไว้ในป่า ไม่มีผ้าห่อ ไม่รู้จิตใจทำด้วยอะไร เราจะเสียใจมากๆ หากช่วยเด็กไว้ไม่ทัน แต่หนูยังโชคดีนะครับที่ร้องเสียงดังจนได้ไปช่วย น้องเก่งมากๆ อดทนสุดๆ ตอนไปเอาออกน้องร้องเจ็บปวดเพราะถูกมดกัดทั้งตัวทั้งหน้า เราคนมีลูกเห็นแล้วจุกอกมากๆ???? ตอนไปอุ้มออกมาคือเจ็บปวดสุดๆ รับรู้เลยว่าน้องทรมานแค่ไหน ไม่ได้กินนม นอนบนป่าหญ้าที่มีแต่รังมด แม่มันใส่ถุงมาโยนไว้คิดได้ไง?? ตอนนี้ปลอดภัยแล้วลูกให้หนูแข็งแรงมีแต่คนรักคนเมตตานะครับคนเก่ง” พร้อมภาพที่กำลังอุ้มเด็กล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านของชาวบ้านที่พบเด็กทารก บริเวณริมทางรถไฟ บ้านคลองยาใต้ ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาได้พบกับ นายวีรเชาว์ สวัสดี หรือ ลุงเชาว์ อายุ ๕๒ ปี (เจอเด็กทารกคนแรก) นางสาวนภัตสร สวัสดี หรือ แม่ปราง อายุ ๔๕ ปี (คนที่ ๒ เจอเด็กทารก) และ นางสาวอาทิตยา เส้งอิ้ว หรือ ทราย อายุ ๒๑ ปี (ลูกสาวคนโพสต์ตามหาแม่เด็ก) พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดเกิดเหตุที่พบเด็กทารก บริเวณซอยถนนประชาชื่นร่มเย็น ซึ่งบริเวณโดยรอบมีป่าหญ้าขึ้นรกสูงท่วมหัว และยังมีร่องรอยคราบเลือดติดอยู่บนพื้นถนนตรงจุดพบเด็กทารก  นายวีรเชาว์ สวัสดี หรือลุงเชาว์ เล่าว่า ตอนนั้นตนเก็บของเก่าที่ถังขยะตรงใกล้ๆ จุดเกิดเหตุและตนก็ได้ยินเสียงเด็กร้อง อุแว้ อุแว้ จากนั้นเห็นสุนัขยืนอยู่ซึ่งสุนัขได้หันมองตนบ้าง มองเข้าไปในป่าบ้าง ตนจึงเกิดความสงสัยจึงได้เดินไปใกล้ๆ ก็ยิ่งได้ยินเสียงเด็กร้องดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อยืนมองดูให้ชัดๆ ปรากฏว่าใช่เด็กและไม่รู้ใครเอามาทิ้งแล้ว จึงขี่รถมาตามน้องสาวและเข้าไปทั้งหมด ๓ คน ซึ่งตอนนั้นมันมืดตนถึงกับขนลุกทั้งตัวคิดว่าเป็นเสียงผีหลอกหรือเปล่า ถ้าไม่คิดแบบนั้นตนเข้าช่วยเหลือตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้วจากการสอบถาม นางสาวนภัตสร สวัสดี หรือแม่ปราง เล่าว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุเวลาสี่ทุ่มตนอยู่ในบ้านและลูกสาวกำลังทำขนมเตรียมขายตอนเช้า มีรถซาเล้งเก็บของเก่าขาย ได้ขี่รถออกหาเก็บของเก่า ระหว่างขี่รถมาจอดใกล้ๆ จุดที่พบเด็กทารกก็ได้ยินเสียงเด็กทารกร้องพร้อมกับมีสุนัขยืนในจุดทิ้งเด็กทารก โดยสุนัขได้หันมามองซาเล้งทีหนึ่ง หันไปมองเด็กทารกทีหนึ่ง เหมือนกำลังยืนเฝ้าและหันไปหันมา ทำให้ซาเล้งสงสัย และได้ยินเสียงร้องอีก เพื่อความแน่ใจซาเล้งเดินไปดูเห็นเป็นเด็กทารกนอนอยู่แบบชัดเจน จากนั้นซาเล้งได้ขี่รถมาบอกลูกสาวที่นั่งหน้าบ้านเตรียมของขายอยู่ว่า เจอเด็กทารกถูกนำมาทิ้ง จึงพากันไปดูพบว่าเป็นเด็กทารกจริง จึงได้รีบไปอุ้มเด็กทารกขึ้นมา เบื้องต้นที่เห็นสภาพเด็กทารกซึ่งนอนคว่ำหน้าซึ่งอยู่ในท่ากบและก็มีมดหลายสายพันธุ์ขึ้นตามตัวเด็กทารก ส่วนปากของเด็กทารกก็ร้องไปด้วย และกำลังกินดินไปด้วย ซึ่งในปากมีทั้งดิน มดและขยะใบไม้อยู่ในปาก ในหู ใต้แขน ใต้ขาและสายสะดือ หลังจากอุ้มเด็กทารกขึ้นมาได้ลูกสาวได้บอกให้ลุงซาเล้งสตาร์ตรถ ก่อนให้ลุงรีบขี่รถซาเล้งไปหาเจ้าหน้าที่กู้ภัยทันทีส่วนทาง นางสาวอาทิตยา เส้งอิ้ว หรือ ทราย ได้เล่าว่า หลังจากโพสต์ภาพตามหาแม่เด็กลงในกลุ่มเพจ ได้มีชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับแม่เด็กทักมาถามข้อมูลตนว่าได้พบเด็กทารกตรงบริเวณไหนและเวลาใด ซึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ข้างบ้านตั้งท้อง แต่ไม่ยอมรับว่าท้องและได้กลับบ้านไปแล้วพบว่ามีเลือดไหลลงมาเต็มขาทั้ง ๒ ข้าง เขาก็ถามผู้หญิงคนนั้นว่าคลอดลูกแล้วใช่ไหม เอาลูกไปไว้ไหน จากนั้นชาวบ้านได้ไปดูห้องน้ำที่ตลาดบ้านพรุก็พบกองเลือดแต่ไม่เจอเด็ก และเจอกองเลือดอีกตรงที่สี่แยกไฟแดง ซึ่งจากการวิเคราะห์กองเลือดน่าจะใช่แม่เด็กที่นำเด็กทารกมาทิ้งแน่นอนต่อมา ตำรวจ สภ.ทุ่งลุง รู้ตัวแม่เด็กที่นำลูกตัวเองมาทิ้ง เป็นแม่ค้าขายไก่ทอดแถวตลาดบ้านพรุ ก่อนจะไปที่บ้านพักและพบว่ากำลังตกเลือดมีเลือดไหลลงมาเต็ม ๒ ขา จึงเร่งนำส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) เพื่อรักษา จากการสอบถามเบื้องต้นได้อ้างว่า ท้องไม่มีพ่อและถ้าคลอดออกมากลัวจะเลี้ยงไม่ไหว เลยนำเด็กทารกใส่ถุงพลาสติกมาทิ้งในป่ารก