Thursday, 19 December 2024

“พิทักษ์เดช” นำ ปชป.ยื่นแก้กฎหมาย ริบอำนาจราชทัณฑ์ หลังปมพักโทษ "ทักษิณ"

“พิทักษ์เดช” นำทีม สส.ปชป.ยื่นแก้กฎหมาย ขอแก้ไขร่างพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. ๒๕๖๐ ริบอำนาจราชทัณฑ์ หลังเกิดปม พักโทษ “ทักษิณ” ชี้ เป็นบาดแผลสำคัญของกระบวนการยุติธรรมกระทบต่อหลักบ้านเมืองวันที่ ๒๑ ก.พ. ๖๗ เมื่อเวลา ๑๓.๒๐ น. ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น ๑ อาคารรัฐสภา นายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อม สส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการเข้าชื่อ สส.พรรคประชาธิปัตย์จำนวน ๒๐ รายชื่อ เพื่อยื่นขอแก้ไขร่างพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. ๒๕๖๐โดย นายพิทักษ์เดช ยืนยันว่า การยื่นร่างดังกล่าวไม่ได้มีความขัดแย้งกับใคร แต่เมื่อกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นปลายทางของกระบวนการยุติธรรม ใช้อำนาจในลักษณะที่ทำให้เกิดความสงสัย กับสังคม ขัดกับหลักบ้านเมือง หลักนิติรัฐนิติธรรม จึงจำเป็นต้องยื่นขอแก้ไขพระราชบัญญัตินี้ เพื่อให้มีการถ่วงดุลอำนาจมากยิ่งขึ้น โดยที่สภาฯ ชุดที่แล้ว พรรคประชาธิปัตย์เคยยื่นเสนอแก้ไขกฎหมายฉบับนี้มาแล้ว แต่เมื่อสภาฯ หมดวาระไป จึงทำให้เรื่องตกไปนายพิทักษ์เดช กล่าวว่า เหตุผลในการยื่นแก้กฎหมายดังกล่าว เนื่องจากมีบทบัญญัติบางประการไม่สอดคล้องกับหลักการทางอาญาตามมาตรฐานสากล ทำให้สังคมตั้งข้อสงสัย เกี่ยวกับกระบวนการภายในของกรมราชทัณฑ์ เช่น รูปแบบและโครงสร้างของคณะกรรมการราชทัณฑ์ หลักการและเงื่อนไขการพิจารณาลดวันต้องโทษ จำคุก การพักการลงโทษของผู้ต้องขัง ดังนั้น จึงควรแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดกระบวนการรัดกุมโปร่งใส นายพิทักษ์เดช กล่าวต่อว่า โดยการขอแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายจะกำหนดให้มีคณะกรรมการที่มีความอิสระโปร่งใส และมีความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง เป็นผู้พิจารณาขั้นต้นเกี่ยวกับการลดวันต้องโทษจำคุก การพักการลงโทษของผู้ต้องขัง และให้ศาลที่คดีถึงที่สุดเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัย และมีคำสั่งในการลดวันต้องโทษจำคุก การพักการลงโทษ ลงโทษของผู้ต้องขังในแต่ละคราวไป รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขขึ้นใหม่ ให้พิจารณา การลดวันต้องโทษจำคุก การพักการลงโทษของผู้ต้องขัง โดยเฉพาะคดีทุจริต คดีอาญา คดียาเสพติดที่ร้ายแรง และคดีอื่นๆ ที่เป็นภัยต่อสังคมอย่างร้ายแรง ส่วนกรณีที่เป็นข่าวอยู่ถือเป็นบาดแผลของกระบวนการยุติธรรมหากต้นน้ำซึ่งเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรมไม่ใสสะอาดรอบคอบในการพิจารณา น้ำที่ลงสู่อ่าว สู่ทะเลก็จะสกปรก”ผมถือได้ว่าเป็นบาดแผลสำคัญของกระบวนการยุติธรรมที่กระทบต่อหลักบ้านเมือง ที่ประชาชนพึ่งหวัง หลักนิติธรรมที่รัฐบาลเคยให้คำมั่นต่อพี่น้องประชาชน เป็นเพียงแค่ลมปากเท่านั้น เชื่อได้ว่ากรณีเช่นนี้ เป็นการใช้บรรทัดฐานที่มีความแตกต่างกัน จะทำให้บุคคนที่หนีคดีอีกหลายคน ใช้กรณีแบบนี้เป็นตัวอย่างเพื่อหลบเลี่ยงในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พรรค ปชป.จะติดตามใกล้ชิดทั้งในและนอกสภา ขอเรียกร้องให้ สส.ร่วมกันผลักดันการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ให้เกิดผลสำเร็จ” นายพิทักษ์เดช กล่าว.