“จักรพงษ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศ เยือน “คาซัคสถาน” นำนักธุรกิจหารือการลงทุน หลัง คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ Free visa ต่ออีก ๖ เดือน หวังดึงนักท่องเที่ยวเพิ่ม ๒ แสนคน เข้าไทย ต่อยอดสินค้าเกษตร นำผลไม้ไทยส่งขายประเทศเมืองหนาววันที่ ๒๓ ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ ๒๒ ก.พ. ที่ผ่านมา นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำภาคธุรกิจของไทยร่วมประชุมเต็มคณะกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศคาซัคสถาน ซึ่งรับผิดชอบงานการลงทุนระหว่างประเทศหลังการหารือได้ลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกับ QazTrade โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศร่วมเป็นสักขีพยาน นายจักรพงษ์ เปิดเผยว่า “คาซัคสถาน” เป็นประเทศที่มีโอกาสมากในแถบเอเชียกลาง มีประชากร ๒๐ ล้านคน มีรายได้ต่อหัวที่สูงมากและมีทรัพยากรธรรมชาติที่สูง นายกรัฐมนตรี จึงให้ควบมสำคัญกับประเทศในแถบนี้ ซึ่งเมื่อวาน คณะรัฐมนตรีก็เห็นชอบขยายเวลา VISA FREE คาซัคสถาน ต่อ ๖ เดือน หลังยอด นักท่องเที่ยว และกำลังซื้อสูงพุ่ง ปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยถึง ๑๗๐,๐๐๐ คน ปีนี้จึงตั้งเป้าให้นักท่องเที่ยวเข้ามา ๒๐๐,๐๐๐ คน ซึ่งนักท่องเที่ยวคาซัคสถาน จะใช้เวลาอยู่ไทยนานถึง ๑๔ วัน ครั้งนี้จึงนำภาคธุรกิจกลุ่มโรงพยาบาลมาด้วยจะมาดึงด้านการแพทย์ และ Wellness ที่ประเทศไทย มีความชำนาญในสาขานี้มาก การมาเยือนคาซัคสถานครั้งนี้ก็จะเป็นการดึงการลงทุนของทั้งสองประเทศส่วนทำไมไทยถึงเลือก”คาซัคสถาน” การลงทุน และนักท่องเที่ยว เพราะคาซัคสถาน เป็นประเทศที่มีอากาศร้อนยาวนานถึง ๗ เดือน จึงเป็นกลุ่มที่มีความสนใจท่องเที่ยว ช่วงที่อุณหภูมิติดลบถึง ๓๐ องศาฯ อยากไปอยู่ประเทศที่อุ่นขึ้น ภูเก็ต จึงเป็นเมืองที่ชาวคาซัคสถานอยากไปเที่ยว รัฐบาลจึงมีแนวคิดจะขยายตลาด ขณะเดียวกัน ก็จะไปเปิดตลาดในประเทศแถบนี้ทั้ง อุซเบกิสถาน และประเทศอื่นๆ ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็เตรียมจะเปิดสายการบินเพิ่มจาก ที่มีเที่ยวบินจากคาซัคสถาน บินตรงไป สุวรรณภูมิ และภูเก็ต ๔๐ เที่ยวต่อสัปดาห์ ซึ่งสายการบินไทยก็ให้ความสนใจอยากจะเปิดเที่ยวบิน ซึ่งมีการหารือเต็มคณะวันนี้ ของทั้งสองฝ่ายก็ได้เห็นถึงความตั้งใจ และอยากลงทุน ของทั้งสองประเทศ ซึ่งก็เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่อยากจะเปิดตลาดใหม่ เพื่อดึงการลงทุนให้ประเทศไทยซึ่ง “คาซัคสถาน” ก็ชอบผลไม้ไทย ขณะที่ “คาซัคสถาน” ก็มีแร่ธาตุ เหมืองแร่ และน้ำมัน รัฐบาลคาซัคสถานพร้อมให้ไทยมาลงทุน และอยากนำเนื้อสัตว์ส่งไปประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลก็จะนำไปประชุมและติดตามผลต่อ