ผบก.ภ.กาฬสินธุ์ มีคำสั่งให้ตำรวจ สภ.โนนสูง ออกจากราชการไว้ก่อน ๖ นาย ตั้งแต่รอง ผกก. ถึง จ่า หลังญาติผู้ต้องหาคดียาบ้าร้อง กองบัญชาการตำรวจภูธร๔ ร่วมกันรีดเงิน ๗ หมื่นบาท แลกปล่อยตัว วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยถึงกรณีโลกโซเชียลมีการเผยแพร่คำสั่งตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ที่ ๑๐๑/๒๕๖๗ เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจ สภ.โนนสูง อ.ยางตลาด ๖ นาย ออกจากราชการไว้ก่อน หลังถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด จนถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงว่า หนังสือคำสั่งดังกล่าวเป็นเรื่องจริงพล.ต.ต.ตรีวิทย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค ๔ และตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และตนเองได้เน้นย้ำมาโดยตลอดว่าห้ามไม่ได้ข้าราชการตำรวจคนใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะการเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งกรณีคำสั่งดังกล่าวนั้น สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา นางเอ (นามสมมติ) ชาวบ้านใน ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ได้เข้าร้องเรียนไปยังตำรวจภูธรภาค ๔ อ้างว่า นายบี (นามสมมติ) อายุ ๓๐ ปี ลูกชายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสูง รวม ๖ นาย จับกุมในคดียาบ้า ของกลาง ๔๐ เม็ด เมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา พร้อมนำตัวไปสอบสวนที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง และเรียกเงินจำนวน ๗ หมื่นบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว พร้อมกับเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจทั้ง ๖ นายหลังรับเรื่องร้องเรียน และรับแจ้งความเจ้าหน้าที่ได้มีการดำเนินการสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่ามีมูล โดยจาการสอบสวนพบว่า วันเกิดเหตุตำรวจทั้ง ๖ นายจับตัวนายบี มาสอบสวนที่รีสอร์ต และให้นายบี โทรศัพท์ไปขอเงินญาติและเพื่อนๆ จำนวน ๗ หมื่นบาท เพื่อมาแลกกับการปล่อยตัว ซึ่งเงินทั้งหมดถูกโอนเข้าบัญชีนายบี แต่นายบีไม่มีบัตรเอทีเอ็ม จึงไม่สามารถกดเงินออกมาได้ จึงโอนเงินต่อไปยังบัญชีธนาคารของภรรยา ซึ่งทำงานอยู่ใน จ.มหาสารคาม จากนั้นตำรวจชุดดังกล่าวจึงพาตัวนาบี ไปเอาเงินกับภรรยา ทั้งนี้จากการรวบรวมพยานหลักฐาน และตรวจสอบข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง ๖ นายมีมูลกระทำความผิดอย่างร้ายแรง จึงตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ประกอบกับ สภ.โนนสูง ได้รับคำร้องทุกข์ไว้ ดำเนินการสอบสวนตามกฎหมาย ในทางการสอบสวนพบว่าในคดีเรื่องนี้ เป็นกรณีเข้าข่ายกระทำผิดตาม มาตรา ๓๐ แห่งพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๕๑ และได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งไปยัง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตจังหวัดกาฬสินธุ์ และมีเหตุให้พักราชการได้ตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการ สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. ๒๕๔๗ ข้อ ๓ (๑) คือผู้นั้นถูกตั้งกรรมการสอบสวนหรือต้องหา ว่ากระทำความผิดอาญาฯ และผู้มีอำนาจดังกล่าวพิจารณาแล้วเห็นว่าถ้าให้อยู่ในราชการอาจเกิดความเสียหายแก่ราชการ และได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการสอบสวนพิจารณาคดีที่เป็นเหตุให้สั่งพักราชการนั้นจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็วฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๓๑ และมาตรา ๑๗๙ แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๕ ประกอบกับกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. ๒๕๔๗ ข้อ ๘ ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์จึงมีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง ๖ นายออกจากราชการไว้ก่อนประกอบด้วย๑. พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ เกกาคำ รอง ผกก.สส.สภ.โนนสูง จว.กาฬสินธุ์ ๒. พ.ต.ท.โกวิต วงษาวัตร สว.สส.สภ.โนนสูง จว.กาฬสินธุ์ ๓. ร.ต.อ.วีระ ม่วงมุลตรี รอง สว.สส.สภ.โนนสูง จว.กาฬสินธุ์ ๔. ร.ต.อ.พินิชย์ ไชยโสภา รอง สารวัตรปราบปรามสภ.โนนสูง จว.กาฬสินธุ์ ๕. ร.ต.ต.นิมิตร นนทะบูรณ์ รอง สวป. สภ.โนนสูง จว.กาฬสินธุ์ ๖. จ.ส.ต.มนศักดิ์ ศรีดาราช ผบ.หมู่ (ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน) สภ.โนนสูง จว.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามสำหรับคดีดังกล่าว พนักงานสอบสวน สภ.โนนสูงได้สรุปสำนวนส่งไปยัง ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาดำเนินคดี เนื่องจากเป็นการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา ๑๕๗, ๑๔๙ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเรียกรับเงิน.
ให้ออก ๖ ตำรวจ สภ.โนนสูง รอง ผกก.-จ่า รีด ๗ หมื่น แลกปล่อยคดียาบ้า
Related posts