ทำยังไงได้ ก็ต้องจำใจรับสภาพกันไป ในอารมณ์แบบที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ฝืนยิ้มยืนยัน ไม่โกรธ ไม่น้อยอกน้อยใจที่โดนด้อยค่าเป็นแค่ ๑ ใน “นายกฯ ๒-๓ คน”เป็นผู้นำรัฐบาลสูตรพิสดาร ในสภาพอำนาจเชิงซ้อน ทักษิณ ชินวัตรตามสถานการณ์ “ศูนย์อำนาจแกว่ง” จากทำเนียบรัฐบาล ไหลไปกับความร้อนแรงของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ได้รับการพักโทษ ปลดเปลื้องพันธนาการกลับไปตั้งศูนย์บัญชาการที่คฤหาสน์ของตระกูลชินกระตุก “พลังจันทร์ส่องหล้า” บดบัง “รัศมีบ้านนรสิงห์”แม้ความจริงจะเจ็บปวด แต่นายเศรษฐาก็ไม่อาจปฏิเสธในสิ่งที่ผู้คนในสังคมอ่านทะลุฉากการเมืองพิลึกพิลั่น ประชาชนคุ้นชินซะแล้วกับเกมอำนาจที่ไม่เป็นไปโดยธรรมชาติปรากฏการณ์ประหลาด เหตุเหนือการคาดหมาย คนไทยได้เห็นมาหมดแล้วทั้งนั้น ตัวอย่างชัดๆก็คือรัฐบาลสูตรพิสดาร ที่พรรคเพื่อไทยหักดิบฝ่ายประชาธิปไตย ถีบทิ้งพรรคอันดับหนึ่งอย่างก้าวไกล ไปจับมือกับขั้วอำนาจทหารเฒ่า ๓ ป. แปลงร่างเป็นฝ่าย อนุรักษ์นิยมแบบเต็มคราบ“นายใหญ่” จับมือ “ลุงคนดี” หามนายเศรษฐา ขึ้นแท่นนายกฯเมื่อมาแบบพิลึกพิลั่น ก็ไม่แปลกที่จะเจอกับเรื่องพิลึกกึกกือ นายเศรษฐาต้องเตรียมรับมือกับเรื่องท้าทาย เหตุไม่คาดฝัน นับจากนี้ไปในสถานการณ์เฉพาะหน้าแบบที่ผู้นำรัฐบาลต้องเผชิญแรงกดดัน กระแสปรับคณะรัฐมนตรีรุกเข้าใส่ แบบไม่ฟังนายเศรษฐาที่พยายามกระชับอำนาจในกำมือ ถือสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญในการนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯเสียงแข็งให้ฟังจากปากตัวเองเท่านั้น แต่จังหวะกระแสไหลเร็วไปถึงขั้นการจ้องเปลี่ยนแปลงผู้นำรัฐบาล เซียนการเมือง กูรู กูรู้ วิเคราะห์กันเจี๊ยวจ๊าวเดาทาง “เถ้าแก่ใหญ่” ต้องปรับกระดานตามดีลอำนาจ จตุพร พรหมพันธุ์ ยุทธการ “เขย่าขวัญ” ปั่นอาถรรพณ์ “เดจาวู” อย่างที่ “ตุ๊ดตู่” นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กระตุกปม “ชี้เป้า” นายเศรษฐาใช้รถยนต์หรู “ALL new LEXus LM๓๕๐” ป้ายทะเบียน สร ๓๐ กรุงเทพมหานคร เดินทางเข้าเยี่ยมนายทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นรถยนต์ที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเพิ่งประกาศจัดซื้อจัดจ้าง ทำสัญญาเช่าจากบริษัทเอกชนมาเป็นรถประจำตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีสุ่มเสี่ยงเข้าเงี่ยง “ใช้รถหลวง” ในภารกิจส่วนตัวหรือไม่ลากไปเทียบเคียงกับคดีที่บิ๊กข้าราชการ ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ นักการเมือง โดนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ลงดาบเชือดมาแล้วนับสิบนับร้อยรายตามฟอร์ม “ตุ๊ดตู่” คนรู้ทัน “นายใหญ่” ที่กัดติดไม่ปล่อย เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งแต่ก็เป็นอะไรที่แกล้งไม่ได้ยินก็ไม่ได้ เพราะตัวอย่าง “กิ้งกือตกท่อ” มีให้เห็นมาแล้ว กรณีนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ผู้ล่วงลับ ที่หลุดตำแหน่งเพราะปมเหตุรับค่าจ้างในรายการทำกับข้าวโชว์ทางทีวีธรรมชาติภูมิคุ้มกันของ “นายกฯนอมินี” วูบวาบตามดีลอำนาจตามสัญญาณที่หูผึ่งไปตามๆกัน กับข่าวลือแรงๆโผล่มาในจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มพอดี พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคกระแสว่อนโซเชียลฯ แชร์กันกระหึ่มไลน์ ติ๊กต่อก เอ็กซ์ เฟซบุ๊ก บิ๊ก “ด” ผู้มากบารมี จ่อไขก๊อกจากวงอำนาจพิเศษ โบกมือลาจากทุกตำแหน่งแบบปุบปับกะทันหัน เพราะปัญหาสุขภาพเป็นคนเดียวกับบิ๊ก “ด” ผู้ทรงพลัง ที่พยายามเข็นครก หามเพื่อน “เซนต์คาเบรียล คอนเนกชัน” อย่าง “เสี่ยตุ๋ย” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการพลังงาน หัวหน้าค่ายรวมไทยสร้างชาติ ทายาทผู้ก่อตั้งปั๊มน้ำมันสามทหารเคลมโควตา “คนดี” แทน “ลุงตู่” หวังยึดเก้าอี้นายกฯ ตามดีลอำนาจที่ตกลงกันไว้ก่อนตั้งรัฐบาลสูตรพิสดาร เปิดทาง “เถ้าแก่ใหญ่” กลับบ้าน โดยไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียวภายใต้เกมการเมืองที่มีทีมเด็กรุ่นใหม่แทรกมาเป็นตัวแปร ทีมก้าวไกลกลายเป็นปัจจัยกดดัน ขวางคอนักการเมืองโบราณกับทหารเฒ่า ไม่อาจแบ่งเค้ก แชร์อำนาจ ตัดจบง่ายๆเหมือนที่ดีลกันไว้เผลอๆจะมีคนโดนเบี้ยว ถูกหักหลัง หรือหลังหักก่อน.ทีมข่าวการเมือง รายงานคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม
Related posts