ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ยืนยันจะไม่เลิกแผนปฏิรูปแพทย์ แม้จะเกิดการหยุดงานประท้วงของกลุ่มหมออายุน้อยหลายพันคน ขณะที่มีรายงานว่า คนไข้ไม่ได้รับการรักษาจนเสียชีวิตไปแล้ว ๑ ศพสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี ยูน ซ็อก-ยอล แห่งประเทศเกาหลีใต้ ประกาศในวันอังคารที่ ๒๗ ก.พ. ๒๕๖๗ ว่า รัฐบาลจะเดินหน้าแผนเพิ่มจำนวนนักเรียนแพทย์ต่อไป เพื่อพัฒนาสาธารณสุขของประเทศ และว่าไม่มีเหตุผลอันสมควรใดๆ ในการประท้วงเพื่อต่อต้านการปฏิรูปนี้คำประกาศของนายยูนเกิดขึ้นในขณะที่ แพทย์อายุน้อยมากกว่า ๙,๐๐๐ คน หรือราว ๒ ใน ๓ ของจำนวนแพทย์ฝึกหัดทั้งหมดในเกาหลีใต้ หยุดงานประท้วงตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน เนื่องจากไม่พอใจแผนเพิ่มนักเรียนแพทย์ของรัฐบาล โดยพวกเขาอ้างว่า ภาคสาธารณสุขไม่ได้ขาดแคลนหมอ และรัฐควรแก้ปัญหาเรื่องค่าจ้างและสภาพการทำงานของพวกเขาก่อนรัฐมนตรีหลายคนออกมาขีดเส้นตายให้ผู้ประท้วงกลับมาทำงานภายในวันที่ ๒๙ ก.พ. มิเช่นนั้นจะถูกลงโทษ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินคดีทางกฎหมาย หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์ และเชิญเหล่าแพทย์มาร่วมพูดคุยเพื่อหาทางแก้ปัญหาแต่นายยูนยังคงรักษาจุดยืนแข็งกร้าวของตัวเอง โดยระบุว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะมาเจรจาหรือประนีประนอม” โดยแผนการปฏิรูปของเขา รวมถึงการขยายความคุ้มครองทางกฎหมายสำหรับแพทย์ และแผนพัฒนาด้านสาธารณสุขในพื้นที่ชนบทด้วย“เป็นเรื่องยากที่จะหาความชอบธรรมภายใต้สถานการณ์ใดๆ ให้แก่การปฏิบัติการร่วมกันซึ่งใช้สาธารณสุขและชีวิตเป็นตัวประกัน และคุกคามชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์” นายยูนกล่าว พร้อมยืนยันว่า การปฏิรูปของเขารวมข้อเรียกร้องหลายอย่างที่กลุ่มแพทย์ต้องการเอาไว้แล้วทั้งนี้ ชาวเกาหลีใต้ถึง ๗๖% สนับสนุนแผนปฏิรูปของนายยูน ทำให้คะแนนนิยมของเขาขยับเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ทีร่ผ่านมา ก่อนที่เกาหลีใต้จะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนเมษายนนี้อย่างไรก็ตาม การประท้วงของกลุ่มแพทย์กำลังส่งผลกระทบต่อการรักษาพยาบาลในเกาหลีใต้ โดยล่าสุดมีรายงานว่า หญิงชราวัยประมาณ ๘๐ ปีคนหนึ่งถูกโรงพยาบาลหลายแห่งปฏิเสธไม่ให้เข้ารับการรักษา เนื่องจากขาดบุคลากร ส่งผลให้ผู้ป่วยรายนี้ เสียชีวิตคารถพยาบาล เนื่องจากหัวใจหยุดเต้น ซึ่งทางการกำลังสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อลดภาระของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล หน่วยงานสาธารณสุขของเกาหลีใต้จึงมีคำสั่งในวันอังคาร (๒๗ ก.พ.) มอบสิทธิ์ให้พยาบาลสามารถทำการรักษาบางย่างที่ปกติต้องให้แพทย์เป็นผู้ลงมือเท่านั้นได้ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreignที่มา : cna
