วันสุดท้ายลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ ปลัดมหาดไทย ย้ำ ยังลงผ่านทางเว็บไซต์ได้ถึง ๒๔.๐๐ น.ของวันนี้ ก่อนเดินหน้าไกล่เกลี่ยให้ครบ ๑๐๐% ขณะที่ยอดล่าสุด มีคนลงทะเบียน ๑๕๑,๑๗๕ ราย พบพฤติการณ์เจ้าหนี้ใช้ความรุนแรงทวงหนี้ กว่า ๕๐,๐๐๐ รายวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยผลการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ วันที่ ๙๑ วันสุดท้าย โดยสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง รายงานว่า ล่าสุดมีประชาชนลงทะเบียน ๑๕๑,๑๗๕ ราย มูลหนี้รวม ๑๑,๗๓๒.๕๐๖ ล้านบาท เป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ ๑๒๕,๐๘๑ ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ ๒๗,๓๔๘ ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ ๑๒๕,๓๐๒ ราย พื้นที่/จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด ๕ ลำดับแรก ๑. กรุงเทพมหานคร ยังคงมีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด ๑๐,๐๙๑ ราย เจ้าหนี้ ๙,๐๔๗ ราย มูลหนี้ ๑,๐๖๕.๔๖๔ ล้านบาท ๒. จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน ๖,๑๑๕ ราย เจ้าหนี้ ๕,๘๘๗ ราย มูลหนี้ ๔๒๕.๑๘๗ ล้านบาท ๓. จังหวัดสงขลา มีผู้ลงทะเบียน ๕,๕๗๐ ราย เจ้าหนี้ ๔,๕๘๙ ราย มูลหนี้ ๓๘๓.๔๕๕ ล้านบาท ๔. จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน ๕,๒๗๓ ราย เจ้าหนี้ ๔,๔๔๓ ราย มูลหนี้ ๔๘๙.๕๖๓ ล้านบาท๕. จังหวัดสุรินทร์ มีผู้ลงทะเบียน ๔,๔๑๒ ราย เจ้าหนี้ ๓,๓๖๔ ราย มูลหนี้ ๔๓๘.๘๓๘ ล้านบาท จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด ๕ ลำดับแรก ๑. จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน ๒๕๐ ราย เจ้าหนี้ ๒๕๑ ราย มูลหนี้ ๑๖.๒๗๔ ล้านบาท ๒. จังหวัดระนอง มีผู้ลงทะเบียน ๓๕๑ ราย เจ้าหนี้ ๒๖๗ ราย มูลหนี้ ๒๔.๔๑๕ ล้านบาท ๓. จังหวัดสมุทรสงคราม มีผู้ลงทะเบียน ๔๐๖ ราย เจ้าหนี้ ๓๑๖ ราย มูลหนี้ ๑๘.๘๑๙ ล้านบาท ๔. จังหวัดสิงห์บุรี มีผู้ลงทะเบียน ๔๗๔ ราย เจ้าหนี้ ๓๘๓ ราย มูลหนี้ ๒๘.๔๘๓ ล้านบาท ๕. จังหวัดตราด มีผู้ลงทะเบียน ๔๗๙ ราย เจ้าหนี้ ๓๖๔ ราย มูลหนี้ ๒๑.๔๘๗ ล้านบาท ในจำนวนผู้ลงทะเบียนทั้งหมด มีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว ๒๘,๗๒๕ ราย โดยไกล่เกลี่ยสำเร็จ ๑๘,๕๐๙ ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนการไกล่เกลี่ย ๒,๖๒๖.๗๘๔ ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย ๑,๘๕๕.๔๗๔ ล้านบาท ซึ่งมูลหนี้ลดลง ๗๗๑.๓๐๙ ล้านบาท ส่วนจังหวัดที่นำลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้มากที่สุด ยังคงเป็นจังหวัดนครสวรรค์ คือมีลูกหนี้ที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ๓,๓๗๓ ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ ๕๑๘ ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย ๒๘๗.๕๘๗ ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย ๕๓.๕๑๑ ล้านบาท ทำให้มูลหนี้ของพี่น้องในจังหวัดนครสวรรค์ ลดลง ๒๓๔.๐๗๖ ล้านบาท “กรณีที่ไม่ได้รับความร่วมมือกระทั่งไม่สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยได้ เจ้าหนี้และลูกหนี้มีความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่แล้ว ๓๑๐ คดี ใน ๔๓ จังหวัด”นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในปัจจุบัน ให้คำจำกัดความเปรียบเสมือนเป็นทาสยุคใหม่ จึงได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับภาคีเครือข่ายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง เราจึงได้มีช่องทางในการรวบรวมข้อมูลโดยการเปิดรับลงทะเบียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๖-๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการรับลงทะเบียนแล้ว ทั้งนี้ ข้อมูลของประชาชนทุกคนที่มาลงทะเบียน จะเป็นฐานข้อมูลของผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ในฐานะหัวหน้าศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจังหวัด/อำเภอ โดยบูรณาการกับทุกภาคส่วน ทั้งอัยการ ทหาร ตำรวจ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือในเรื่องหนี้นอกระบบ อำนวยความสะดวกทำให้ลูกหนี้ได้ชำระหนี้ในอัตราที่เป็นธรรม และเข้าสู่ระบบของสถาบันการเงินของรัฐ โดยมีการชำระเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทำให้ประชาชนได้มีแหล่งเงินทุนในการชำระหนี้ และมีเงินเลี้ยงดูครอบครัวได้ ทางด้านกระบวนการไกล่เกลี่ย ตลอดระยะเวลากว่า ๓ เดือนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้า ซึ่งมาตรการในระยะสั้น ได้เชิญลูกหนี้และเจ้าหนี้มาพูดคุยตกลงกันจนสามารถลดต้นลดดอกของหนี้ได้ ทำให้สามารถช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบกลุ่มแรกได้สำเร็จ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการต่อไป อาจต้องใช้เวลาในการนำลูกหนี้และเจ้าหนี้ทั้ง ๒ ฝ่ายมาพูดคุยกัน สำหรับข้อมูลเจ้าหนี้ที่มีพฤติการณ์ใช้ความรุนแรง ข่มขู่ ในการทวงหนี้ จำนวนกว่า ๕๐,๐๐๐ ราย ทางกระทรวงมหาดไทยส่งข้อมูลให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีต่อไป สำหรับมาตรการระยะยาว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีนโยบายในการช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้กับลูกหนี้นอกระบบ ส่งเสริมการพัฒนาทักษะในการประกอบอาชีพ โดยบูรณาการทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้นอกระบบเข้าสู่กระบวนการพัฒนาตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมแนวทางให้ลูกหนี้สามารถลดรายจ่ายในชีวิตประจำวัน ส่งเสริมการปลูกผักสวนครัวและการเลี้ยงสัตว์เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยน้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ตลอดจนส่งเสริมแนวทางจัดทำบัญชีครัวเรือน ลดความฟุ่มเฟือย หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา การเล่นพนัน และรวมไปถึงการขยายโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพต่อไปอย่างไรก็ตาม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวในช่วงท้าย แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันสิ้นสุดการรับลงทะเบียนหนี้นอกระบบ แต่เป็นวันเริ่มต้นในการสะสางปัญหาหนี้ให้กับผู้ที่มาลงทะเบียน เพราะกระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบยังไม่สิ้นสุด และเราจะเดินหน้าต่อจนกว่าจะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยครบ ๑๐๐% โดยประชาชนยังคงลงทะเบียนได้ผ่านช่องทางออนไลน์ (ลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ) ได้จนถึงเวลา ๒๔.๐๐ น. ของวันนี้ และหลังจากที่ปิดรับลงทะเบียนแล้ว หากมีประชาชนผู้ที่เดือดร้อนจากหนี้นอกระบบประสงค์จะขอความช่วยเหลือ สามารถโทรสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม ๑๕๖๗ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง หรือสามารถเดินทางไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด/อำเภอ เพื่อให้ทางราชการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาได้ “เราไม่ได้ช่วยเหลือแค่หนี้นอกระบบ แต่ยังเป็นการช่วยเหลือในทุกด้าน อาทิ การศึกษา ยาเสพติด ที่อยู่อาศัย สาธารณูปโภค หรือปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ ที่พี่น้องประชาชนไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง เพราะทุกปัญหามีทางออก จึงขอให้ทุกท่านอย่าได้ลังเลใจที่จะขอความช่วยเหลือผ่านช่องทางของรัฐ ผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมของกระทรวงมหาดไทย ที่จะเป็นช่องทางที่รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยมีไว้เพื่อให้การช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน”
