Thursday, 19 December 2024

ปัญหาที่รัฐมิชิแกน อาจทำให้ไบเดน แพ้เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ไบเดน ชนะเลือกตั้งแบบไพรมารีที่รัฐมิชิแกนตามความคาดหมาย แต่ที่น่าตกใจคือ มีผู้โหวตไม่ยอมรับเขามากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ เลือก จากความไม่พอใจในนโยบายตะวันออกกลางของเขามิชิแกน เป็นหนึ่งในรัฐสวิงสเตต ที่ศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของเดโมเครตกับรีพับลิกันสูสีกันมาตลอด การเสียคะแนนถึง ๑๐๐,๐๐๐ เลือก อาจสร้างปัญหาให้ไบเดนได้ปัญหาที่รัฐมิชิแกนอาจลามไปเกิดขึ้นที่รัฐสวิงสเตตอื่นๆ ด้วย แน่นอน ไบเดน มีเวลาถึง ๘ เดือนในการหาทางออก แต่การแก้ปัญหาอาจอยู่นอกเหนืออำนาจการควบคุมของเขาผลการเลือกตั้งภายในแบบไพรมารีของพรรคเดโมแครตที่รัฐมิชิแกนเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างเซอร์ไพรส์ให้แก่ โจ ไบเดน กับทีมหาเสียงของเขาอย่างมาก เมื่อผู้ใช้สิทธิ์นับแสนคนเลือกโหวต ‘uncommitted’ หรือไม่ลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัครคนใด แทนที่จะลงคะแนนเสียงให้เขา เพื่อประท้วงนโยบายสนับสนุนอิสราเอลของประธานาธิบดีผู้นี้สิ่งที่เกิดขึ้นในมิชิแกนกำลังสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังเผชิญการต่อสู้ภายในฐานการเมือง และกลุ่มแนวร่วมของตัวเขาเอง ที่เขาต้องชนะใจกลับมาให้ได้ หากต้องการเอาชนะคู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็น นายโดนัลด์ ทรัมป์รัฐมิชิแกน ถือเป็นหนึ่งในรัฐสำคัญของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ และหากวันนั้นมาถึง แต่ผู้โหวตฝ่ายเดโมเครตในมิชิแกน หรือรัฐสวิงสเตตอื่นๆ ยังคงรู้สึกไม่ยอมรับ นายไบเดน อยู่แบบนี้ ก็อาจทำให้เขาต้องพ่ายแพ้ในการชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ สมัยที่ ๒แน่นอน ไบเดน มีเวลาถึง ๘ เดือนในการบรรเทาปัญหาที่เขามีกับผู้โหวตชาวอาหรับอเมริกันในมิชิแกน และที่อื่นๆ แต่โอกาสที่เขาจะแก้ไขจุดอ่อนนี้ของตัวเองอาจขึ้นอยู่กับสิ่งที่อยู่นอกเหนืออำนาจการควบคุมของเขา ซึ่งได้แก่ การฟื้นฟูสันติภาพในตะวันออกกลาง และยุติปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซา เกิดอะไรขึ้นที่มิชิแกนผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนในการเลือกตั้งไพรมารีของเดโมแครต สามารถกาช่อง uncommitted เพื่อไม่เลือกผู้สมัครรายใดที่พรรคเสนอมาเลยได้ โดยในปี ๒๕๕๕ ชาวเดโมเครตในมิชิแกนก็โหวตไม่ยอมรับ บารัค โอบามา ถึง ๒๐,๐๐๐ เสียง ทำให้เส้นทางไปสู่การป้องกันตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาไม่ราบรื่นอย่างที่หวังแต่เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (๒๗ ก.พ. ๒๕๖๗) ไบเดน ได้รับข้อความเตือนจากผู้โหวตมิชิแกน แม้ว่า ๘๑% จะโหวตยอมรับไบเดนเป็นตัวแทนพรรค แต่เขากลับได้คะแนนโหวต ‘uncommitted’ ถึง ๑๐๑,๐๐๐ เลือก หรือกว่า ๑๓.๒% ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นการโหวต uncommitted มากมายขนาดนี้ในรัฐมิชิแกนเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มชาวอาหรับอเมริกัน และกลุ่มหัวก้าวหน้า จัดแคมเปญต่อต้านนโยบายตะวันออกกลางของไบเดน เป็นสัญญาณชัดเจนที่สุดว่า สงครามในกาซากำลังส่งผลกระทบอย่างไรต่อพรรคเดโมแครตทีมหาเสียงของไบเดนออกแถลงการณ์ในนามประธานาธิบดีเมื่อกลางดึกวันอังคาร เกี่ยวกับชัยชนะที่รัฐมิชิแกน แต่กลับไม่พูดถึงการโหวตไม่เห็นชอบแม้แต่น้อย แต่หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ที่ปรึกษาอาวุโสในทีมหาเสียงก็ต้องออกมาพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นโดยตรง“ประธานาธิบดีไบเดนมีจุดมุ่งหมายเดียวกับผู้ที่โหวตไม่ยอมรับหลายๆ คน ซึ่งก็คือการยุติความรุนแรง สร้างความยุติธรรมและสันติภาพอย่างยั่งยืน” ที่ปรึกษาอาวุโสในทีมหาเสียงของไบเดนกล่าว “นั่นคือสิ่งที่เขากำลังทำงานเพื่อให้บรรลุผล” เรื่องน่าปวดหัวของไบเดนสิ่งที่เกิดขึ้นในมิชิแกนกำลังแสดงให้เห็นความอ่อนแอในของแรงดึงดูดในฐานะประธานาธิบดีของนายไบเดน และทำให้เกิดการตั้งคำถามเรื่องความเป็นหนึ่งเดียวภายในกลุ่มแนวร่วมของไบเดน และความกระตือรือร้นผู้กลุ่มผู้โหวตสำคัญของฝ่ายเดโมแครต ซึ่งรวมถึง ผู้โหวตอายุน้อยกับกลุ่มหัวก้าวหน้า ซึ่งมีปฏิกิริยากับการเข่นฆ่าในกาซามากที่สุดเมื่อปี ๒๕๕๙ โดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความตกตะลึงด้วยการชนะนางฮิลลารี คลินตัน ที่มิชิแกนด้วยคะแนนโหวตห่างกันเกือบ ๑๑,๐๐๐ เลือก ปูทางไปสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดีที่วุ่นวายที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสหรัฐฯ แต่ ๔ ปีต่อมาสร้างกำแพงสีน้ำเงินขึ้นใหม่ได้อีกครั้ง และชนะคู่แข่งด้วยคะแนนห่างกว่า ๑๕๐,๐๐๐ โหวตแต่ทุกสัญญาณกำลังบอกกว่าการชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีในครั้งนี้จะสูสีกว่าเดิม จากความไม่เป็นที่นิยมกับความกังขาในความเป็นผู้นำของไบเดน หากผู้เลือก uncommitted นับแสนคนในวันอังคารที่ผ่านมา ไม่กลับไปหาไบเดน หรือไม่ออกมาใช้สิทธิ์ในเดือนพฤศจิกายน พวกเขาก็อาจส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อชะตากรรมของทำเนียบขาวนอกจากนั้นยังมีคำถามตามมาด้วยว่า หากไบเดนเจรจาหยุดยิงได้สำเร็จ มันจะสามารถคลายความไม่พอใจของกลุ่มผู้โหวตที่โกรธแค้นในวันอังคารได้หรือไม่ หรือความขัดแย้งในตะวันออกกลางได้สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ทางการเมืองของไบเดนอย่างไม่อาจย้อนคืนได้แล้ว?ที่ผ่านมา ไบเดนส่งทีมงานหาเสียงและผู้ช่วยจากทำเนียบขาวหลายคนไปยังมิชิแกน เพื่ออธิบายให้ผู้โหวตเข้าใจนโยบายอิสราเอลของเขา แต่ไม่เคยเดินทางไปด้วยตัวเอง เพื่อปลอบประโลมผู้โหวตชาวอาหรับอเมริกัน และอธิบายให้พวกเขาเข้าใจว่าเหตุใดเขาถึงไม่ประสบความสำเร็วใจการลดขนาดปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลส.ส.เดโมแครตหลายคน รวมถึง เดบบี ดิงเกลล์ จากรัฐมิชิแกน มองว่า ไบเดนควรจับเข้าคุยกับชุมชนชาวอาหรับอเมริกัน เพราะพวกเขากำลังรู้สึกเจ็บปวดที่ต้องเห็นชาวปาเลสไตน์มากมายถูกเข่นฆ่า ขณะที่นายโร คานนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า ผู้โหวตที่มิชิแกนกำลังส่งข้อความที่ไม่อาจมองข้ามได้ให้ไบเดน และเดโมเครตควรทำความเข้าใจกลุ่มแนวร่วมของตัวเองให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลอุปสรรคทางการทูตเป็นที่ชัดเจนว่า ไบเดนจำเป็นต้องลดผลสะท้อนที่เกิดจากนโยบายตะวันออกกลางของตัวเอง แต่จะเข้าไปแทรกแซงความขัดแย้งอย่างไรนั้น ยังคลุมเครือเมื่อวันจันทร์ไบเดนตกเป็นข่าวใหญ่ เมื่อจู่ๆ เขาก็ออกมาบอกว่า การบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งจะทำให้ตัวประกันได้รับการปล่อยตัวมากขึ้น และทำให้ผลเรือนรอดตายมากขึ้น อาจเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ทั้งที่การเจรจาในตะวันออกกลางตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่าจะเป็นเช่นนั้นหลังจากการเลือกตั้งในวันอังคาร ไบเดนยิ่งจำเป็นต้องทำให้การต่อสู้ในกาซายุติลงโดยเร็ว และแสดงหลักฐานให้เห็นว่า ความต้องการสร้างรัฐปาเลสไตน์ที่เขาพูดถึง ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวอเมริกันมุสลิมมากมายต้องการ ไม่ได้เป็นเพียงภาพลมปากแต่นักวิเคราะห์มากมายเชื่อว่า เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลผู้อยู่บนจุดสูงสุดของรัฐบาลผสมที่กำลังอยู่ในสภาพง่อนแง่น จะได้รับผลประโยชน์ทางการเมืองมากจากการขยายการต่อสู้กับกลุ่มฮามาสออกไป เพื่อเพิ่มโอกาสของตัวเองในการเลือกตั้งทั่วไป หลังผลโพลชี้ว่า เขาอาจแพ้ เนื่องจากการโจมตีครั้งใหญ่ของกลุ่มฮามาสเมื่อ ๗ ต.ค. เกิดขึ้นในช่วงที่เขาดูแลประเทศอยู่บางที หากรัฐบาลเนทันยาฮูล่ม อาจเพิ่มโอกาสในการเลือกตั้งให้ไบเดน และลดความรุนแรงของสงครามกาซาลง แต่ทำเนียบขาวไม่มีวันพูดเรื่องนี้ออกมาตรง“ประธานาธิบดีอเมริกันไม่สามารถพูดได้ว่า เขาต้องการให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีอิสราเอล” นายมิตช์ แลนดรู เจ้าหน้าที่ทีมหาเสียงของไบเดนบอกกับสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น และเสริมว่า ชาวเดโมเครตในมิชิแกนกำลังความคิดของตัวเองออกมาให้ไบเดนรู้ แต่เขาก็ยอมรับด้วยว่า ประธานาธิบดีไม่สามารถควบคุมทุกอย่างของปัญหาที่เราไม่ใช้ผู้มีอำนาจควบคุมจริงๆ ได้แน่นอนว่า การเลือกตั้งไพรมารีเพียงครั้งเดียวในเดือนกุมภาพันธ์ ไม่บอกผลการเลือกตั้งทั่วไปได้ และเป็นไปม่ได้ที่จะทำนายผลการเผชิญหน้ากันอีกครั้งระหว่างไบเดนกับโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีคะแนนนิยมในหมู่ผู้โหวตชาวอาหรับอเมริกันแย่กว่าไบเดนเสียอีก หลังจากเขาประกาศจะบังคับใช้คำสั่งห้ามชาวมุสลิมเข้าประเทศอีกครั้ง หากได้รับเลือกเป็นสมัยที่ ๒ทรัมป์ยังมีเรื่องที่ต้องการกังวลก่อนการเลือกตั้งทั่วไปจะมาถึง โดยนอกจากคดีความมากมายที่กำลังอยู่ในชั้นศาลแล้ว เขายังเหลือคู่แข่งชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคอีกคนคือ น.ส.นิกกี เฮลีย์ แม้ว่าที่ผ่านมาทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งภายในมาตลอด แต่เฮลีย์ก็มีผู้สนับสนุนไม่น้อย ซึ่งทีมหาเสียงของไบเดนอาจพยายามดึงคนกลุ่มนี้ ที่ไม่ต้องการให้ทรัมป์ประธานาธิบดี มาเป็นคะแนนเสียงให้ฝ่ายตัวเองด้วยก็เป็นได้ผู้เขียน : ทิตชนม์ สว่างศรีที่มา : cnn [๑] , [๒]