ธนาคารโลกหรือ World Bank เพิ่มตัวเลข GNI (รายได้ ประชาชาติเฉลี่ยต่อคน) ที่เข้าเกณฑ์การเป็นประเทศรายได้สูงขึ้นอีกร้อยละ ๕ เข้าสู่ระดับ ๑๓,๘๔๖ ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี ถ้าเป็นเงินไทยก็ประมาณ ๔.๙๖ แสนบาท (๔.๑ หมื่นบาทต่อเดือน) ประเทศไหนที่ผู้คนมีรายได้ต่ำกว่านี้ ไม่ถือว่าอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูงตามมาตรฐานธนาคารโลกค.ศ.๒๐๒๓ รายได้ประชาชาติเฉลี่ยต่อคนของจีนลดลงร้อยละ ๐.๑ เข้าสู่ที่ระดับ ๑๒,๕๙๗ ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี หรือ ๔.๕๒ แสนบาท (เดือนละ ๓.๗ หมื่นบาทต่อเดือน) ทำให้จีนหลุดจากการเป็นกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง จีนโดนกระทบจากวิกฤติโควิด-๑๙ ตามด้วยตลาดอสังหาริมทรัพย์พัง กำไรของผู้ประกอบการและรายได้ภาคครัวเรือนลด สิ้น ค.ศ.๒๐๒๓ คนจีนเข้าเกณฑ์รับสวัสดิการคนว่างงานมากถึง ๓.๕๒ ล้านราย (เพิ่มจาก ค.ศ.๒๐๒๒ ถึง ๕ แสนราย)ค่าเงินหยวนตกต่ำลงเฉลี่ยร้อยละ ๔.๕ ใน ค.ศ.๒๐๒๓ เข้าสู่ระดับ ๗.๐๔๖๗ หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ สถานการณ์เศรษฐกิจของจีนไม่สดใสเหมือนเดิม นักลงทุนจำนวนมากเทขายหุ้นจีนแล้วย้ายพอร์ตไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของอินเดียแทน มีการคาดการณ์กันว่าในหลายทศวรรษจากนี้ไป อินเดียจะเป็นประเทศที่พุ่งเหมือนกับจีนในช่วง ๓๐ ปีที่ผ่านมาต้องถือว่าจีนประสบความสำเร็จอย่างสูงในการขจัดความยากจน ย้อนหลังไปในอดีตเมื่อ ๓๐-๔๐ ปีที่แล้ว ประชาชนคนจีนยากจนถ้วนหน้า รัฐบาลจีนมุ่งทำให้คนหลุดพ้นจากความยากจนได้สำเร็จมากกว่าร้อยละ ๔๐ การประชุมสมัชชาครั้งที่ ๑๘ เมื่อปลาย ค.ศ.๒๐๑๒ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน จีนใช้มาตรการขจัดความยากจนอย่างละเอียดแม่นยำ ตรงกลุ่มเป้าหมาย และมีมาตรการล็อกเป้าคนจนเป็นรายตัวได้อย่างแม่นยำแม้มีพลเมืองมากถึง ๑.๔ พันล้านคน แต่จีนก็มีรัฐบาลท้องถิ่นในระดับต่างๆที่เข้มแข็ง การขจัดความยากจนของจีนไม่ใช่หว่านช่วยไปทั่ว แต่ดูไปที่คนจนจริงๆ การรู้ว่าคนกลุ่มไหนจนจริงหรือครอบครัวใดยากจนของแท้ รัฐรู้จากหน่วยบริหารส่วนท้องถิ่น เมื่อได้รายชื่อคนก็ทุ่มเทช่วยเหลือจนสามารถหลุดพ้นจากความยากจนได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดค.ศ.๒๐๑๓-๒๐๑๘ จีนทำสถิติขจัดความยากจนให้กับประชาชนเป็นสิบล้านคนทุกปีอย่างต่อเนื่อง ในช่วง ๖ ปี จีนลดกลุ่มผู้ยากจนสะสมไปได้มากถึง ๘๒.๓๙ ล้านคน ทำให้จีนเป็นประเทศที่สามารถลดผู้ยากจนได้มากที่สุดในโลกเป็นประเทศแรก อย่างไรก็ตาม ยังมีคนจีนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร ห่างไกลความเจริญอีก ๑๖.๖ ล้านคน ที่เป็นกลุ่มผู้ยากจนอย่างเข้มข้นคนจนกลุ่มนี้เป็นภาระหนักที่สุดของรัฐบาลในภารกิจขจัดความยากจนจีนมีคำว่า ‘มรดกความยากจน’ หมายความว่า ความ ยากจนตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น จากพ่อแม่สู่รุ่นลูก จากรุ่นลูกสู่รุ่นหลาน รุ่นลูกหลานโตแล้วก็ต้องประสบเคราะห์กรรมซ้ำซ้อน ในสถานการณ์เดียวกันกับรุ่นพ่อแม่ จีนเข้าไปแก้ไขวงจรอุบาทว์นี้ในระดับครอบครัว ซึ่งวิธีการแก้ไข เปิดฟ้าส่องโลกจะนำรายละเอียดมารับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพในโอกาสต่อไปวงจรอุบาทว์ของความยากจนมาจากความยากลำบากในการพัฒนาภาคการศึกษา การเกิดในครอบครัวผู้ยากไร้ต้องเผชิญกับปัญหาหลายอย่างที่ทำให้ต้องหยุดเรียนกลางคัน สำคัญที่สุดก็คือทัศนคติของพ่อแม่ที่มองว่าการเรียนหนังสือไร้ประโยชน์ ทำให้ลูกหลานของครอบครัวเหล่านี้จนซ้ำซาก ไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้รัฐบาลจีนเข้าไปแก้ไขทัศนคตินี้ และสนับสนุนให้เยาวชนยากจนได้เรียนหนังสือ มีความรู้ มีทักษะในการเลี้ยงชีพ ช่วยให้หางานทำได้อย่างราบรื่น คนรุ่นต่อไปจึงหลุดพ้นจากความยากจนได้ด้วยตัวเอง หากใครไปศึกษาเรื่องงบประมาณของรัฐบาลจีน โดยเฉพาะงบประมาณด้านการศึกษา จะเห็นว่าทุ่มไปที่พื้นที่ยากจนที่สุด เน้นที่การศึกษาขั้นพื้นฐาน ภาคอาชีวศึกษา การฝึกอบรมผู้คน สร้างทรัพยากรมนุษย์ด้วยทุนการศึกษาของรัฐ รัฐทุ่มเงินไปที่ทีมครูชนบท ทั้งรัฐบาลกลาง ท้องถิ่น และครู ต่างมีแฟ้มประวัติข้อมูลรายบุคคลของสมาชิกในครอบครัวผู้ยากจน.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok๑๙๙๗@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม