ในทางโหราศาสตร์อาจพูดได้ว่า พรรคก้าวไกลขณะนี้อยู่ในช่วงพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก พรรคอาจโดนยุบเมื่อไหร่ก็ได้ ๔๔ สส.รวมทั้งระดับผู้นำพรรคอาจกลายเป็นผู้ต้องห้ามทางการเมืองตลอดชีพ แต่ยังได้รับความนิยมจากประชาชนมากกว่าพรรคอื่นๆ รวมทั้งระดับผู้นำของพรรคผลการสำรวจความเห็นคนไทย ๒,๓๓๕ คนจากทั่วประเทศ โดยสวนดุสิตโพล พบว่ามีถึง ๖๘.๔๑% ที่เห็นว่าในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนักการเมืองฝ่ายค้านที่มีบทบาทเด่นที่สุด ส่วนฝ่ายรัฐบาล มีคน ๕๑.๑๕% เห็นว่านายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน มีบทบาทเด่นที่สุด ผลงานเด่นของรัฐคือการแก้ปัญหาหนี้ส่วนผลงานของฝ่ายค้านที่เด่น คือการตรวจสอบโครงการดิจิทัลวอลเล็ต คอการเมืองส่วนใหญ่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลจะเป็นคู่แข่งทางการเมืองที่เข้มข้นสุด ถ้ามองแบบชาวบ้าน พรรคก้าวไกลจะเสียเปรียบทุกประตู เพราะพรรคแกนนำรัฐบาลมีงบรายจ่ายให้ปีละกว่า ๓ ล้านล้านบาทส่วนพรรคก้าวไกลมีแต่มือเปล่าๆ แต่ตรวจสอบรัฐบาลได้ เสนอร่างกฎหมายก้าวหน้าได้ แต่เมื่อรองประธานสภาซึ่งเป็นฝ่ายค้าน เดินเข้าไปทวงถามร่างกฎหมาย ๓๑ ฉบับที่ถูกดองไว้ กลับถูก สส.เพื่อไทยต่อว่า ไม่รู้หน้าที่ รุกลํ้าอำนาจรัฐ ใครกันแน่ที่ไม่รู้หน้าที่นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์เชื่อว่า ชัยชนะของพรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้ง ๒๕๖๖ เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ กระทบต่อการเมืองไทยกระทบระบบธุรกิจการเมือง กระทบนโยบายลดแลกแจกแถม มหาประชานิยม เพราะคนรุ่นใหม่ๆเบื่อหน่าย ต้องการเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปใหม่ๆหลังจากที่พรรคเพื่อไทยดัดหลัง พรรคก้าวไกล ด้วยการจับมือร่วมกับรัฐบาลพรรคลุงๆ ภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่พรรคเสรีประชาธิปไตยต่อไป แต่กลายเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมใหม่ สัญญาว่าจะเร่งแก้ไขหรือจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย หลายเดือนผ่านไป ยังไม่รู้ว่าจะลงประชามติกี่ครั้งที่เคยสัญญาว่าจะได้รัฐธรรมนูญประชาธิปไตยโดยเร็ว อาจต้องรอถึง ๔ ปี ส่วนคำสัญญาของนายกรัฐมนตรี จะฟื้นฟูหลักนิติธรรม เพื่อเป็นหลักในการปกครองประเทศ กลับถูกวิพากษ์ว่ารัฐบาลทำลายนิติธรรมเสียเอง กรณีนักโทษเทวดา แม้แต่สัญญาจะแจกเงินหมื่นที่ถนัด ก็ต้องให้ชาวบ้านทวงถามจะแจกเมื่อไหร่คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม
