เฮติประกาศภาวะฉุกเฉิน และบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว หลังแก๊งอาชญากรรมบุกจู่โจมเรือนจำขนาดใหญ่ ๒ แห่ง ทำให้นักโทษหลบหนีไปได้หลายพันคนสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลของประเทศเฮติประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา ๗๒ ชั่วโมง หลังกลุ่มแก๊งอาชญากรรมติดอาวุธ บุกโจมตีเรือนจำขนาดใหญ่ในเมืองหลวง กรุงปอร์โตแปรงซ์ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (๒ มี.ค. ๒๕๖๗) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๑๒ ศพ และมีนักโทษหลบหนีไปได้ประมาณ ๓,๗๐๐ คนตามแถลงการณ์ของรัฐบาลเฮติ มีเรือนจำ ๒ แห่งถูกบุกโจมตีเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือเรือนจำหลักในกรุงปอร์โตแปรงซ์ และเรือนจำเมือง ครัวซ์ เด บูเก (Croix des Bouquets) ซึ่งอยู่ใกล้กันรัฐบาลบอกอีกว่า พฤติกรรมขัดขืนเช่นนี้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ และประกาศบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกจากบ้านในยามวิกาล เริ่มตั้งแต่ ๒๐.๐๐ น.ของวันจันทร์ที่ ๔ มี.ค. ๒๕๖๗ เป็นต้นไปด้านสื่อของเฮติรายงานว่า ในการจู่โจมเมื่อวันเสาร์ สมาชิกแก๊งติดอาวุธโจมตีสถานีตำรวจหลายแห่งก่อน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ จากนั้นจึงประสานงานกันโจมตีเรือนจำสถานการณ์ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ตอนนี้ แก๊งอาชญากรรมตั้งสิ่งกีดขวางสกัดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงรุกล้ำเข้าไปในเขตแดนของพวกเขา ขณะที่ฐานที่มั่นของพวกเขาในเขตชุมชนของกรุงปอร์โตแปรงซ์ ส่วนใหญ่อยู่ในภาวะล็อกดาวน์ โรงเรียนและธุรกิจหลายแห่งปิดทำการ และมีรายงานเรื่องการปล้นสิ่งของจากร้านค้าในย่านต่างๆ ด้วยทั้งนี้ เหตุความรุนแรงฝีมือแก๊งอาชญากรรมครอบงำประเทศเฮติมานานหลายปีแล้ว แต่สถานการณ์รุนแรงขึ้นอีกหลังการลอบสังหารประธานาธิบดี โฌเวเนล โมอิส เมื่อปี ๒๕๖๔ ซึ่งจนถึงบัดนี้ พวกเขาก็ยังไม่มีประธานาธิบดีคนใหม่ และเฮติไม่ได้จัดการเลือกตั้งมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๙ แล้วตอนนี้แก๊งอาชญากรรมควบคุมพื้นที่ของกรุงปอร์โตแปรงซ์เอาไว้ราว ๘๐% โดยกลุ่มแกนนำของแก๊งออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี อาริเอล อองรี ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากเขาไม่ยอมลงจากอำนาจเมื่อวันที่ ๗ ก.พ. ตามข้อตกลงเพื่อเปิดทางไปสู่การเลือกตั้งความรุนแรงรอบล่าสุดในเฮติปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๙ ก.พ. ๒๕๖๗ ในขณะที่นายอองรีเดินทางเยือนกรุงไนโรบี ของประเทศเคนยา เพื่อหารือเรื่องการส่งกองกำลังความมั่นคงนานาชาติซึ่งนำโดยเคนยา มายังเฮตินายจิมมี เชริซิเอร์ อดีตตำรวจ ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในแกนนำแก๊งอาชญากรรม ที่เชื่อกันว่าอยู่เบื้องหลังเหตุสังหารหมู่มากมายในปอร์โตแปรงซ์ ออกมาประกาศร่วมมือกันโจมตีเพื่อโค่นนายอองรีลงจากตำแหน่งสหภาพตำรวจของเฮติ ออกมาเรียกร้องให้กองทัพมาช่วยเสริมกำลังที่เรือนจำหลัก แต่เรือนจำกลับถูกบุกโจมตีเมื่อคืนวันเสาร์ (๒ มี.ค.) โดยจนถึงเช้าวันอาทิตย์ ประตูเรือนจำยังคงเปิดกว้าง โดยไม่มีวี่แววของเจ้าหน้าที่ นักข่าว เอเอฟพีที่เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พบเป็นศพผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๑๐ ศพ บางรายมีบาดแผลถูกยิงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครของเรือนจำ บอกกับนักข่าวของรอยเตอร์ว่า มีนักโทษ ๙๙ คน ซึ่งรวมถึงอดีตทหารโคลอมเบีย ที่ถูกคุมขังในข้อหาเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี โมอิส ตัดสินใจอยู่ในห้องขังต่อโดยไม่หนี เนื่องจากกลับถูกสังหารในการยิงปะทะ โดยตอนนี้พวกเขาถูกย้ายไปเรือนจำอื่นแล้วติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreignที่มา : bbc
