Thursday, 19 December 2024

“ทักษิณ” ขออยู่หลังม่านดีกว่า

ไปปฏิบัติภารกิจที่ถนัด ไม่ต้องยุ่งเหยิงหัวใจ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปต่างประเทศอีกครั้งครานี้ต้องบอกว่า…ไปหลายวันจาก ๔-๑๔ มีนาคม๖๗ไล่ตั้งแต่ออสเตรเลียเพื่อร่วมประชุมอาเซียน-ออสซี จากนั้นก็ข้ามทวีปไปเยอรมนีและฝรั่งเศส ๓ ประเทศแล้วก็บินกลับไทยนัยว่าจะแถลงผลงานรัฐบาลครบ ๖ เดือน หลังกลับจากเมืองนอกเอาเป็นว่า การไปต่างประเทศครั้งนี้ จะมีผลงานอะไรให้ปรากฏ ก็จะรายงานให้ทราบเป็นช่วงๆไปแต่ก่อนที่จะไปถึงตรงนี้ เอาที่เป็นไปในประเทศก่อนดีกว่า“นิด้าโพล” ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนประเด็น ผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง ระหว่างวันที่ ๒๗-๒๙ กุมภาพันธ์๖๗ ที่ผ่านมาปรากฏพบว่า“ทักษิณ ชินวัตร” เป็นผู้ทรงอิทธิพลสูงสุด ๔๒.๙๐% ถัดลงไป “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ๒ ๑.๙๑% “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” จาก “ก้าวไกล” ๑๗.๔๐% “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อดีตนายกรัฐมนตรี ๑๕.๑๑% “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้า “เพื่อไทย” ๙.๐๑%“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ๖.๑๑% “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ๔.๒๗% “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ๓.๒๘%เหล่านี้คือ บรรดาผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองของประเทศไทยถ้าจะว่ากันตามสภาพความเป็นจริงแล้ว ก็ไม่ต่างไปจากผลโพลนิด้าแต่อย่างใด เพราะคนที่มีอิทธิพลสูงสุดก็ชัดเจนอยู่แล้วคือ “ทักษิณ ชินวัตร” แห่งจันทร์ส่องหล้า เพราะแม้แต่นายกรัฐมนตรี ทางการยังต้องเข้ารั้วบ้านไปพบหลังจากได้รับการพักโทษอันแสดงให้เห็นถึงอำนาจและบารมีในตัวตนยังส่องประกายให้ปรากฏ ซึ่งสังคมไทยต่างก็รู้กันเป็นอย่างดีแล้วนักข่าวได้ถามนายกรัฐมนตรีว่า จะตั้ง “ทักษิณ” เป็นที่ปรึกษาหรือไม่ปรากฏนายกรัฐมนตรีตอบว่า “ท่านยังไม่ได้แสดงเจตจำนงว่าจะเป็นที่ปรึกษาหรือเปล่าเลย ตอนเข้าไปหาท่าน ท่านก็ยังโฟกัสเรื่องการรักษาตัวเองให้ดี”“คิดว่าท่านอยากจะใช้เวลาอยู่กับครอบครัว หรือพี่น้องพรรคพวกเพื่อนฝูงที่สนิทกัน และดูแลรักษาตัวเองให้ดี หลังจากนั้นแล้วค่อยว่ากันดีกว่า ผมโอเพ่น”เป็นคำตอบที่ต้องบอกว่า บัวไม่ให้ชํ้านํ้าไม่ให้ขุ่นมากกว่าแบบว่าจะปฏิเสธก็ไม่ได้จะตอบรับก็ไม่แน่ใจ เพราะใจจริงแล้วคงไม่อยากตั้งมากกว่า เพราะมันเท่ากับแสดงให้เห็นอย่างที่พูดกันว่า เมืองไทยมีนายกรัฐมนตรี ๒ คน ที่ทำให้รู้สึกแสลงใจว่าไปแล้วจากผลโพลที่ออกมานั้น น่าจะทำให้ “ทักษิณ” ไม่รับเป็นที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการ เพราะคำตอบมันอยู่ตรงนั้นแล้ว ไม่ต้องแสดงตัวแต่อย่างใด อีกทั้งไม่สร้างความไม่สบายใจให้นายกรัฐมนตรีด้วยเพราะสามารถให้คำปรึกษาแบบลับได้อยู่แล้ว และมีนํ้าหนักความน่าเชื่อถือสูงที่จะนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติโดยเฉพาะการวางแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมในทางการเมืองนั้น พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ก็ยอมศิโรราบอยู่แล้ว หากมีปัญหาก็สามารถต่อสายถึงกันได้อยู่แล้วที่สำคัญอยู่แบบนี้ ใหญ่คับบ้านคับเมืองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งแต่อย่างใด!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม