เมื่อวันที่ ๖ มี.ค. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมได้ติดตามการขับเคลื่อนงานด้านต่างๆของ กระทรวงศึกษาธิการโดยเฉพาะประเด็นสำคัญคือการยกระดับผลคะแนนโครงการประเมินผลนักเรียนระดับนานาชาติ หรือพิซา ปี ๒๐๒๕ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะวางแนวทางและโครงสร้างการทำงานอย่างไรที่จะนำไปสู่การยกระดับผลคะแนนของนักเรียนในการประเมินดังกล่าว ขณะเดียวกันยังได้ติดตามการปรับขึ้นเงินเดือนของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งในส่วนของ กระทรวงศึกษาธิการเราได้มีมติปรับขึ้นข้าราชการครู ๑๐% โดยตนต้องการเร่งให้ขั้นตอนการดำเนินการต่างๆไม่ว่าจะเป็นการคำนวณงบประมาณตัวเลขอัตรากำลังข้าราชการครูทุกกลุ่มจะต้องทันดีเดย์ในวันที่ ๑ พฤษภาคมนี้ เพราะไม่ต้องการให้มีผลย้อนหลังในการดำเนินการรมว.กระทรวงศึกษาธิการกล่าวอีกว่า ส่วนการรับสมัครนักเรียนชั้น ม.๑ และ ม.๔ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๗ นั้น ได้รับทราบว่าสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้แจ้งหน่วยปฏิบัติทั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) สถานศึกษาทั่วประเทศ ให้เตรียมความพร้อมการรับนักเรียนด้วยความเรียบร้อย ซึ่งขณะนี้เปิดรับสมัครและจัดสอบในส่วนของห้องเรียนพิเศษไปบ้างแล้ว และไม่พบปัญหาหรืออุปสรรคอื่นใด ขณะที่การรับสมัครและการสอบของกลุ่มห้องเรียนปกติจะดำเนินการระหว่างวันที่ ๙-๑๓ มีนาคมนี้ ซึ่งเชื่อว่าทุกเขตพื้นที่จะต้องยึดแนวปฏิบัติการรับนักเรียนอย่างเคร่งครัด“ส่วนประเด็นกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พบทุจริตการสอบครูผู้ช่วยของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ขอนแก่น เขต ๒ เนื่องจากมีการขายข้อสอบครูผู้ช่วยและทำตำหนิในโจทย์ข้อสอบราคาหลักแสนบาทนั้น ขณะนี้ผมได้รับรายงานว่า สพฐ.ได้มีคำสั่งพักปฏิบัติหน้าที่ของ ผู้อำนวยการสพป.ขอนแก่น เขต ๒ แล้ว อีกทั้ง กรกฎาคมศ.ได้มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้แล้วเช่นเดียวกัน รวมถึงการสอบสวนความผิดทางวินัย สพฐ.ได้เร่งดำเนินการอยู่ ซึ่งผมมีนโยบายชัดเจนอยู่แล้วในเรื่องการทุจริตในวงราชการหากใครทำผิดต้องโดนลงโทษให้เร็ว และใครทำดีก็ต้องได้รับคำชมเชยด้วยความรวดเร็วเช่นกัน” พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าว.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
