Thursday, 19 December 2024

นายกฯ ร่วมงาน ITB Berlin ๒๐๒๔ ฟังข้อเสนอเอกชน ชูไทย จ่อจัด "มหาสงกรานต์"

“นายกฯ เศรษฐา” ร่วมงาน ITB Berlin ๒๐๒๔ ร่วมพร้อมรับฟังข้อเสนอภาคเอกชนท่องเที่ยวไทย โชว์ไทยมุ่งเน้นดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ กลยุทธ์ เว้นวีซ่า ชู เตรียมจัดงานมหาสงกรานต์เทศกาลไทยอย่างยิ่งใหญ่ให้รู้จักระดับสากล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา ๑๐.๑๕ น. วันที่ ๗ มี.ค. ๒๕๖๗ ตามเวลาประเทศเยอรมนี (ช้ากว่าประเทศไทย ๖ ชั่วโมง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้เข้าร่วมงาน International Tourismus Borse หรือ ITB Berlin ๒๐๒๔ งานมหกรรมส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในโลก ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๕-๗ มี.ค. ๒๕๖๗ ที่ศูนย์การจัดนิทรรศการ Messe Berlin Exibition Ground กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยได้เยี่ยมชมคูหาประเทศไทยที่ ฮอลล์ ๒๖ ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้นำภาคเอกชน ๗๔ ราย เข้าร่วมส่งเสริมการขายสินค้าทางการท่องเที่ยว และนายกฯ ได้พบปะ กับภาคเอกชนไทยที่ได้ร่วมงานและพูดคุยกับ ตัวแทนของบูธต่างๆ ประกอบด้วย สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กรุงเทพมหานคร บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินชมบูธของประเทศต่างๆ ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม The Amazing Thailand Networking Event with the Prime Minister of Thailand ณ อาคาร City Cube Berlin ซึ่ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดขึ้นในเวลา ๑๑.๓๐ น. โดยมีสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ รวมกว่า ๒๐๐ คน เข้าร่วมงาน โดยนายเศรษฐา กล่าวว่า การเข้าร่วมงาน ITB Berlin ๒๐๒๔ นี้เป็นการมาร่วมงานครั้งแรก และเป็นโอกาสในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยได้ตั้งเป้าหมายการดำเนินงานในปี ๒๕๖๗ สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวรวม ๓.๕ ล้านล้านบาทขณะที่สำหรับตลาดยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ตั้งเป้านักท่องเที่ยว ๘.๕ ล้านคน สร้างรายได้กว่า ๖๖๔,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินนโยบาย Ease of Traveling เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว นักธุรกิจในการเดินทางมาสู่ประเทศไทย เพื่อท่องเที่ยวหรือการค้าการลงทุน อาทิ การยกเว้นวีซ่าระหว่างไทยและจีน ซึ่งเริ่มในวันที่ ๑ มี.ค. ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา การขยายเวลาการยกเว้นวีซ่าให้กับผู้ถือหนังสือเดินทางสัญชาติคาซัคสถานซึ่งเป็นอีกกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ออกไปจนถึงวันที่ ๓๑ ส.ค. ๒๕๖๗ เพื่อเป็นการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในไทย นอกจากนี้ ยังได้ยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวไต้หวัน และอินเดีย ถึงวันที่ ๑๐ พ.ค. ๒๕๖๗ ตลอดจนยกเว้นวีซ่า และขยายระยะเวลาให้นักท่องเที่ยวรัสเซียอยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน ๙๐ วัน จนถึงวันที่ ๓๐ เม.ย. ๒๕๖๗ และการยกเลิกการกรอกใบ ตม.๖ ที่ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันที่ ๒๕ ต.ค. ๒๕๖๖ ซึ่งสำหรับตลาดยุโรป รัฐบาลจะดำเนินการเจรจาขอฟรีวีซ่ากับประเทศในกลุ่มเชงเก้นเช่นเดียวกัน และสำหรับกลุ่มประเทศอาเซียน รัฐบาลจะหารือร่วมกันในการเปิด “One Visa, Free your Destination” เพื่อให้สามารถเดินทางภายในภูมิภาคได้อย่างไร้รอยต่อ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะเร่งส่งเสริมประชาสัมพันธ์อัตลักษณ์ท้องถิ่นพื้นที่ท่องเที่ยวเมืองรอง นอกเหนือจากเมืองหลักที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดีแล้ว เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สร้างสรรค์ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์และเปี่ยมด้วยคุณค่าในจุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วประเทศไทย รวมถึงรัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการปรับกฎระเบียบให้เหมาะสมกับนักท่องเที่ยว เช่น ขยายเวลาเปิดสถานบริการ เวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และลดภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยจะดึงเอาวัฒนธรรม งานประเพณี อัตลักษณ์ของประเทศซึ่งเป็น soft power ที่โดดเด่นมาเป็นจุดขาย เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีความหมายให้กับนักท่องเที่ยว โดยยกระดับงานประเพณีที่สำคัญให้เป็นเทศกาลระดับนานาชาติ ซึ่งยูเนสโก ได้ประกาศขึ้นทะเบียน สงกรานต์ในประเทศไทยเป็นรายการในบัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ รัฐบาลไทยจึงได้จัดกิจกรรม Maha Songkran World Water Festival ๒๐๒๔ อย่างยิ่งใหญ่และส่งเสริมให้มีการจัดงานทั่วประเทศ กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ และประชาสัมพันธ์ให้งานสงกรานต์ของไทยเป็นที่รู้จักในระดับสากล ชูจุดขายเป็นเสน่ห์ของประเทศไทย ให้โดดเด่นในสายตาประชาคมโลก นอกจากนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนการจัดเทศกาลระดับนานาชาติอื่นๆ ในประเทศไทย รวมถึงเทศกาลดนตรี คอนเสิร์ต อีกด้วยทั้งนี้ เพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางทางการบินของอาเซียน รัฐบาลไทยได้มีแผนในการสร้างท่าอากาศยานนานาชาติล้านนาและท่าอากาศยานนานาชาติอันดามัน ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง ๔๐ ล้านคนต่อปี ในขณะเดียวกัน ได้ดำเนินการพัฒนาศักยภาพเชื่อมโยงของการเดินทาง ปรับปรุงยกระดับท่าอากาศยานต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมและเพิ่มศักยภาพในการรองรับเที่ยวบินจากต่างประเทศและการต่อเที่ยวบินในประเทศให้เต็มประสิทธิภาพ โดยปรับปรุงกระบวนการภาคพื้นดินและลดระยะเวลากระบวนการผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก ขยายและปรับการจัดสรรสล็อตขึ้นลงอากาศยานให้เหมาะสมกับการรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศมากขึ้น ลดค่าบริการขึ้นลงอากาศยานและเพิ่มค่าธรรมเนียมการล่าช้า เพื่อเพิ่มการหมุนเวียนและรองรับเที่ยวบินให้มากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพมาตรฐานความปลอดภัยทั้งกระบวนการภาคพื้นดินและทางอากาศ รวมถึงจะร่วมมือกับพันธมิตรสายการบินต่างๆ ในการขยายเส้นทางบินใหม่ และเพิ่มเที่ยวบินสู่จุดหมายปลายทางต่างๆ ในประเทศไทย โดยให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเตรียมจัดกิจกรรม “Air-mazing Thailand : The Amazing Airline FAM Trip” เพื่อโชว์ศักยภาพและขีดความสามารถของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางทางการบิน (Aviation Hub) ที่เชื่อมโยงการเดินทางของภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง นายจักรพงศ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี รับข้อเสนอแนะจากภาคเอกชนท่องเที่ยวของเกาะสมุย ที่เข้าร่วมงาน ITB Berlin ๒๐๒๔ ให้เปลี่ยนมุมมองใหม่เรื่องของวีซ่า จากเดิมที่มองว่าไทยจะให้วีซ่ากับประเทศใดบ้าง เปลี่ยนเป็นไทยจะไม่ให้ประเทศใดบ้าง เพื่อแสดงถึงการเปิดกว้างของประเทศไทย ส่วนเราได้มากแค่ไหนผมต้องไปทำต่อนายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรีได้รับฟังข้อเสนอของคมนาคมและสั่งการให้เพิ่มสายการบินอินเตอร์ระหว่างประเทศให้บินตรงเข้าสนามบินกระบี่มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันเหลือน้อยมากเพียง ๓ สายการบินเท่านั้น ได้แก่ สกู๊ตแอร์ แอร์เอเชียและฟลายดูไบ ทั้งๆ ที่สนามบินมีศักยภาพในการที่จะรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ถึง ๘ ล้านคนต่อปี และมีโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยวได้ ๒๕,๐๐๐ ห้อง