“มาดามเป้า” อนงค์วรรณ เทพสุทิน เสียใจเหตุชายหัวร้อนตะเพิดเด็กน้อย ๑ ขวบ ออกจากร้าน ระบุเป็นเหตุเกิดขึ้นครั้งแรก ย้ำไม่ละเลยความปลอดภัยผู้ใช้บริการ รีบเข้าไประงับเหตุ แต่กลับถูกไล่ออกจากร้านตัวเอง ระบุให้ความร่วมมือครอบครัวผู้เสียหาย พร้อมมอบภาพจากกล้องวงจรปิดให้ตำรวจลงบันทึกประจำวัน วอนไม่อยากให้ลูกค้าผวา ขอกลับมาทานอาหารเหมือนเดิมจากกรณีที่ชายหัวร้อนอ้างว่าเป็นทหาร ตะเพิดครอบครัวที่มีลูกเล็ก ซึ่งนั่งรับประทานอาหารที่ร้านกินเส้น ย่านสนามบินน้ำ จ.นนทบุรี เพราะไม่พอใจที่เด็กวัย ๑ ขวบส่งเสียงดัง พร้อมกับแสดงอาการข่มขู่ เมื่อวันที่ ๘ มีนาคมที่ผ่านมาล่าสุดวันนี้ (๑๐ มี.ค.) นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีต รัฐมนตรีว่าการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะเจ้าของร้านอาหารกินเส้น ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเสียใจที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในร้าน ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นนับจากที่เปิดร้านมาเกือบ ๒๐ ปี ซึ่งระหว่างที่เกิดเหตุการณ์ตนได้เข้าไปดูแล และพยายามคลี่คลายสถานการณ์ แต่ไม่เป็นผล เนื่องจากชายที่หัวร้อนอยู่ในอาการโมโหอย่างหนัก แม้ว่าตนแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของร้าน และขอให้สงบอาการลง แต่กลับถูกด่าด้วยคำพูดหยาบคาย และไล่ตนออกจากร้านด้วยนางอนงค์วรรณ กล่าวด้วยว่า ตอนที่เกิดเหตุเสียงดังภายในร้าน ตนอยู่ในร้านด้วย เมื่อได้ยินเสียงเอะอะจึงรีบเข้าไปดู พบชายที่มีอายุกำลังเสียงดัง และใช้ถ้อยคำหยาบคายกับครอบครัวที่มีลูกเล็ก ตนพยายามขอร้องให้ใจเย็น และให้พูดกันดีๆ แต่กลับถูกด่าด้วยคำหยาบคาย ทั้งนี้เพื่อให้การควบคุมสถานการณ์เป็นไปได้ด้วยดี และเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าที่ใช้บริการในร้าน จึงได้เชิญชายมีอายุที่กำลังอยู่ในอาการโมโหออกจากร้าน แต่กลับถูกด่าด้วยถ้อยคำพูดที่ไม่สุภาพ และเมื่อชายคนดังกล่าวออกจากร้านทราบว่าได้ผลักไหล่พนักงานในร้านด้วย”ระะหว่างเกิดเหตุชายคนดังกล่าวได้บอกว่า เข้ามาพูดคุยธุรกิจที่เป็นเรื่องสำคัญในร้าน แต่ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร และพนักงานแจ้งว่าไม่ได้สั่งอาหารใดๆ ทาน ดังนั้นเพื่อให้ผู้เข้ามารับบริการปลอดภัย จึงได้เชิญชายคนดังกล่าวออกจากร้าน และเตรียมโทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพราะอยู่ในพื้นที่การดูแล และมีสายตรวจคอยตรวจความเรียบร้อย เนื่องจากทราบว่ามีการข่มขู่กันด้วย แต่ทางครอบครัวที่เป็นคู่กรณีได้โทรศัพท์แจ้ง ๑๙๑ ก่อน และหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงร้านได้แนะนำให้ครอบครัวผู้เสียหายลงบันทึกประจำวันไว้ โดยทางร้านให้ความร่วมมือมอบภาพจากกล้องวงจรปิดให้กับครอบครัวผู้เสียหายเพื่อประกอบการลงบันทึกประจำวันด้วย” นางอนงค์วรรณ กล่าวนางอนงค์วรรณ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เปิดร้านมาจะ ๒๐ ปี เหตุการณ์นี้ถือเป็นครั้งแรก และไม่คิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้น เพราะความตั้งใจที่มาเปิดร้านเพื่อต้องการนำอาหารขึ้นชื่อของ จ.สุโขทัย ที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของพื้นที่มาให้คนในกรุงเทพฯ และพื้นที่ จ.นนทบุรี ได้รับประทาน หรือคนที่ชื่นชอบอาหารสไตล์สุโขทัย และร้านมีบรรยากาศเป็นกันเอง มีความสงบ และลูกค้าที่เข้ามารับประทานอาหารไม่เคยมีพฤติกรรมใดๆ ที่ทำลายบรรยากาศที่ดีภายในร้านเลย ส่วนเหตุการณ์ดังกล่าวตนไม่ทราบจริงๆ ว่าจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ยอมรับว่าเมื่อมีเหตุการณ์ขึ้นอาจจะมีผลกระทบต่อการเข้ามาใช้บริการบ้าง แต่ไม่อยากให้ผู้ที่จะเข้ามารับบริการผวาหรือหวาดกลัวว่าจะเกิดเหตุไม่ดีขึ้นอีก ตนขอให้กลับมาทานอาหารที่ร้านเหมือนเดิม.