ต้องไม่ลืมสภาพความเป็นจริงที่ดำรงอยู่แม้จะมีอิสระได้กลับมาอยู่บ้านแล้วก็ตามหลังจากได้รับการ “พักโทษ”แต่หาใช่ว่าจะพ้นโทษแล้วอีกทั้งสุขภาพร่างกายก็ยังอยู่ในอาการป่วยหนัก นี่ว่ากัน ตามที่ปรากฏอย่างเป็นทางการ แต่ความเป็นจริงจะเป็นอย่างไรนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน “ทักษิณ” นายกฯแห่งจันทร์ส่องหล้าซึ่งได้รับอนุญาตจากกรมคุมประพฤติให้เดินทางไปเชียงใหม่ได้ระหว่าง ๑๔-๑๖ มีนาคม๖๗เป็นข่าวอึกทึกตามธรรมดา เมื่อ “พญาเหยียบเมือง” ทั้งที่ก็ย่อมจะเป็นไปอย่างนี้ โดยเฉพาะบรรดามวลชน “เสื้อแดง” ที่ สนับสนุนก็คงตื่นเต้นดีใจเพราะจากกันไปนานถึง ๑๗ ปียังไม่นับรวมถึงหมู่ญาติพี่น้องคนในครอบครัวและนักการเมือง “เพื่อไทย” ต่างก็อยากพบปะเห็นหน้าเห็นตากันให้หายคิดถึงจะไปห้ามไม่ให้พบกันก็คงไม่ได้ เพราะกฎหมายก็ไม่ได้ห้ามและคนเคยคุ้นเคยกันมาก่อนจะไปตัดสิทธิก็ไม่ได้เช่นกันยิ่งวางโปรแกรมที่ต้องเดินทางไปในสถานที่สาธารณะจึงมิอาจหลีกพ้นได้ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาเมื่อสองขั้วที่พร้อมจะวิ่งเข้าหากันอยู่แล้วขนาดว่า “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรียังส่งเสียงมาจาก ต่างแดนว่า “ถ้ามีโอกาสจะได้พบกัน” นั่นประไรเป็นอันว่าทุกอย่างเป็นทั้งธรรมชาติและปรุงแต่งขึ้นมาให้เป็นอย่างนี้…ก็ว่ากันไปเพราะเป้าหมายการเดินทางไปเชียงใหม่ครั้งนี้นอกจากเหตุผลที่ประกาศชัดเจนคือ การไปกราบไหว้บรรพบุรุษและพบปะกับญาติพี่น้องบุคคลในครอบครัวแล้วต้องไม่ลืมว่า เชียงใหม่นั้นเป็นบ้านเกิดและยังเป็นพื้นที่ที่เป็นฐานเสียงสำคัญทางการเมืองหรือจะพูดว่า เป็น “เมือง หลวง” ก็ได้ปานนั้นการเลือกตั้งที่ผ่านมาจากที่เคยกวาดทุกเขตกลับถูก “ก้าว ไกล” ชิงไปหลายเขตถือว่า เสียหายไม่น้อยเลยทีเดียวก็เลยต้องเรียกศรัทธาคืนกลับมาให้เร็วที่สุดเพราะ “ก้าวไกล” กำลังเร่งสร้างคะแนนนิยมลึกลงไปถึงการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเพื่อหวังแย่งชิงฐานเสียงในมิติใหม่ว่าด้วยแนว “อุดมการณ์” ทางการเมืองนำจุดติดเมื่อไรก็ยากที่จะเรียกคืนกลับมาได้ซึ่งไม่ใช่ที่เชียงใหม่เท่านั้น แต่ยังหมายถึงจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศอย่าง กทม. “ก้าวไกล” ก็กวาดไปทุกเขตเหลือให้ “เพื่อไทย” เพียงเขตเดียวเท่านั้นอีก ๔ ปีข้างหน้าแม้ดูจะอีกนาน แต่ถ้าไม่เริ่มตั้งแต่วันนี้ก็มีสิทธิ์เสียท่าได้ แม้ชื่อ “ทักษิณ” ยังขายได้ในตลาดการเมืองแต่แนวโน้มความคิดทางการเมืองของประชาชนได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจนทำให้ “ก้าวไกล” มีความมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆแต่ด้วยสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นนั้นก็มีคำถามว่าพฤติกรรมและการกระทำของ “ทักษิณ” นั้นลํ้าเส้นไปหรือไม่เพราะแม้รูปการณ์ทางการเมืองจะออกมาในลักษณะไม่มีเหลืองไม่มีแดงแล้ว แต่ก็ยังบางส่วนที่มีความรู้สึกฝังใจอยู่หากไปสะกิดแรงๆอาจจะ “จุดติด” ขึ้นมาได้ยิ่งคนเรานั้นมักจะเป็นไปแบบ “ได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา”ด้วยหลงเคลิ้มไปกับภาพลวงตาที่ตัวเองวาดฝันเอาไว้ในใจ!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม
Related posts