Thursday, 19 December 2024

"เศรษฐา" ขออย่ามอง ซ้อนอำนาจ "แพทองธาร" ชี้ วิกฤติประเทศทำคนเดียวไม่ได้

นายกฯ ขออย่ามอง ซ้อนอำนาจ “แพทองธาร” อยากให้มองช่วยกันมากกว่า ชี้ วิกฤติประเทศทำคนเดียวไม่ได้ ย้ำ เดินทางต่างประเทศช่วยแก้วิกฤติ ดึงนักลงทุนเข้าไทย พร้อมรับฟังคำวิจารณ์ปรับปรุงทำงานเมื่อเวลา ๑๑.๐๐ น. วันที่ ๑๑ มี.ค. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย ๖ ชั่วโมง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีสื่อวิพากษ์วิจารณ์มาต่างประเทศแล้วบอกจะแก้วิกฤติประเทศได้อย่างไรว่า การที่ตนเดินทางมาต่างประเทศก็ถือเป็นการแก้วิกฤติอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเซ็นสัญญา FTA ซึ่งในอดีตไม่ได้ทำ การดึงนักลงทุนไปลงทุนในประเทศ ในอดีตก็ไม่มีการทำ ซึ่งถือเป็นการแก้วิกฤติในระยะกลางและระยะยาวอยู่แล้ว ถ้าเกิดมีนักลงทุนเข้ามาในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอย ทำให้มีงานจ้างงานที่มากขึ้น เชื่อว่าจะเป็นจุดหนึ่งในการแก้ไขปัญหาวิกฤติส่วนที่กังวลต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกมาเรื่อยๆ หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ส่วนตัวกังวลทุกเรื่อง และรับฟังทุกเรื่องกับทุกสื่อที่ให้คอมเมนต์มา หากทำได้ก็จะปรับปรุงตัวเองและปรับปรุงวิธีการทำงานของตัวเองส่วนการร่วมคณะของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่ถูกมองว่าเป็นภาพทับซ้อนของอำนาจนั้นว่าขอให้ดูว่าเป็นการช่วยกันทำงานมากกว่า เพราะน.ส.แพทองธาร เป็นรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งตนมาเจอบริษัทใหญ่ๆ ที่เกี่ยวข้อง กับซอฟต์พาวเวอร์เกี่ยวกับเรื่องแฟชั่น เกี่ยวกับเรื่องดีไซน์ และอีเวนต์ ว่าจะสามารถเอาสินค้าอะไรเข้าไปได้บ้างเช่น เมื่อวันที่ ๑๐ มี.ค. ไปห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงปารีส มีห้องสตูดิโอที่เป็นพื้นที่ให้กับดีไซเนอร์รุ่นใหม่ มาพบปะพูดคุยกัน นางสาวแพทองธารก็บอกว่าจะนำไปทำที่พรรคเพื่อไทย เพื่อเปิดโอกาสเปิดพื้นที่ให้กับดีไซเนอร์รุ่นใหม่ ที่มีไอเดียใหม่ๆ ได้มาพบปะพูดคุยกัน ขออย่าคิดว่าเป็นการทับซ้อนอำนาจหรือไม่เลย มองว่าเป็นการช่วยกันทำงานมากกว่าเพราะทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าประเทศไทยอยู่ในช่วงวิกฤติ ทำคนเดียวอาจจะไม่ไหว ต้องมีคนช่วยทำด้วย ส่วนตัวไม่ได้ติดอะไรตรงนี้