“ธนกร” ค้าน “ณัฐวุฒิ” ย้ำ ไม่ควรนิรโทษกรรมคนทำผิด ม.๑๑๒ เหตุ เป็นคดีความมั่นคงของรัฐ ไม่ใช่การเมือง ลั่น แตะต้องเบื้องสูง เป็นเรื่องไม่สมควร ขอผู้ใหญ่บางพรรคอย่าให้ท้ายเด็กทำผิด ลั่น ปัญญาชนต้องเคารพสิทธิเสรีภาพคนอื่นวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๗ นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. มองคดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ เป็นเงื่อนไขทางการเมือง หากอยากคลี่คลายความขัดแย้งควรขยายพื้นที่การนิรโทษกรรมให้ครอบคลุมถึงความผิดมาตรานี้ด้วยนั้นนายธนกร ระบุว่า ก่อนอื่นบุคคลในฝ่ายการเมืองต้องตั้งหลักให้ถูกต้องก่อน เพราะคดีชุมนุมทางการเมือง กับคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ที่เป็นการหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ เป็นคนละเรื่องที่จะนำมาเหมารวมว่าเป็นการเมืองไม่ได้ ยกตัวอย่าง หากมีใครมาด่าว่าหมิ่นประมาทบุพการีของเราแบบเสียๆ หายๆ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเมือง เจ้าตัวจะยอมหรือไม่ ตนเข้าใจว่าที่หลายคนมองเรื่องนี้ผิดไปเป็นเรื่องการเมืองนั้น เนื่องจากมีบางพรรคการเมืองให้การสนับสนุนกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ออกมาเคลื่อนไหว เมื่อมีความผิดก็คิดว่าเป็นคดีทางการเมือง ซึ่งไม่ใช่ และที่สำคัญศาลรัฐธรรมนูญชี้ชัดแล้วว่า การออกมาเคลื่อนไหวเรื่องการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรานี้ถือเป็นการล้มล้างการปกครอง จึงอยากให้ทุกฝ่ายทางการเมืองตั้งสติ แยกประเด็นให้ถูกต้อง ส่วนคำถามว่าหากนิรโทษกรรมไม่รวมคดี ม.๑๑๒ จะมีการแก้ปัญหาความเห็นต่างในบ้านเมืองอย่างไร นายธนกร ระบุว่า สังคมไทยมีหลายเวทีให้แสดงความคิดเห็นตามหลักประชาธิปไตย ทั้งเวทีสาธารณะและเวทีสภา ซึ่งตนมองว่าควรที่จะเคารพความเห็นต่างของทุกฝ่าย แต่การเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมือง หรือบางกลุ่ม ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน สมควรที่ปัญญาชนต้องเคารพสิทธิเสรีภาพคนอื่นในสังคม ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น โดยอ้างเหตุผลของกลุ่มตนเองฝ่ายเดียว ขณะเดียวกันพรรคการเมืองหรือผู้ใหญ่ต้องชี้แนะและให้คำปรึกษาที่ถูกต้องแก่คนรุ่นใหม่ ไม่เป็นการให้ท้ายในทางที่ผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่เป็นความมั่นคงของรัฐ ต้องให้ความสำคัญ ใครจะละเมิดไม่ได้ ถือว่าเป็นการสร้างความแตกแยกและบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศ “คุณณัฐวุฒิ ควรยึดหลักการให้ดี ไม่ใช่เห็นว่าเป็นการชุมนุมแล้วเหมารวมว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองไปเสียหมด ต้องมาดูว่าเจตนาและเป้าหมายของการชุมนุมและการแสดงความเห็นต่างๆ นั้น ต้องการอะไรกันแน่ ความคิดเห็น ความชื่นชอบทางการเมืองแตกต่างกันได้ แต่ต้องไม่สร้างความแตกแยก ทำกิจกรรมโดยความสงบ และต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย หากทำผิดเรื่องความมั่นคงของรัฐ ไปแตะต้องเบื้องสูง เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ไม่ถูกต้อง และศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัยชี้ชัดมาแล้ว ซึ่งนายณัฐวุฒิก็ยอมรับเองว่าไม่เคยมีการเคลื่อนไหวแบบนี้มาก่อน จึงมองว่าเรื่องนี้ก็ไม่ควรที่จะได้รับการนิรโทษกรรม เพราะไม่ใช่การเมือง”
