ผ่านการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ๒ วัน ระหว่าง ๓-๔ เม.ย. รัฐบาลก็คงทำงานคล่องตัวขึ้น เพราะประเด็นทางการเมืองจะน้อยลงไปโดยปริยายแต่เนื้อหาสาระของการอภิปรายนั้น ว่าให้ถึงที่สุดน่าจะเป็นประโยชน์ ถ้ารัฐบาลใจกว้างรับฟังแล้วนำไปปรับปรุงแก้ไขเพราะทุกอย่างฟังดูแล้วเป็นข้อเท็จจริง ที่จะเอื้อให้การบริหารประเทศดีขึ้น เนื่องจากมีการนำจุดอ่อนมาแนะนำ และเตือนด้วยการชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่องต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล ในฐานะผู้บริหารประเทศโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ตอกยํ้าถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น อย่างการเดินทางไปโรดโชว์ต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีถึง ๑๔ ประเทศแม้จะอ้างเหตุผลอย่างไรก็ตาม แต่สิ่งที่นายกรัฐมนตรีพยายามจะขายฝันให้คนไทยเคลิบเคลิ้มไปนั้นค่อนข้างจะเป็นไปได้ยากเพราะนักลงทุนต่างประเทศไทยนั้น ก่อนจะตัดสินใจลงทุน ประเทศไหนเขาต้องศึกษาเป็นอย่างดีว่า ที่ไหนเหมาะสม ที่ไหนจะได้กำไรงามแม้สถานการณ์จะชี้แนวโน้มว่า นักลงทุนรายใหญ่จะหันมาลงทุนในภูมิภาคนี้มากขึ้น แต่ไม่ใช่ประเทศไทยนี่แหละคือปัญหา…ดูไปแล้วที่รัฐบาลพยายามเน้นไปที่การชูประเด็นให้ไทยเป็น “ฮับ” ท่องเที่ยว ถือว่ามาถูกประเด็น เพราะมีความเป็นไปได้มากที่สุดพูดง่ายๆว่า ถูกโฉลกกับประเทศไทยมากนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ได้แสดงวิสัยทัศน์ในเรื่องท่องเที่ยวเอาไว้ว่า จากการที่รัฐมนตรีท่องเที่ยวฯได้ประกาศ ๕ กลยุทธ์สำคัญ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ถือว่าเป็นความคิดที่ครบกระบวนทุกอย่างเช่นเรื่องการใช้แท็กซี่ มัคคุเทศก์ต่างๆ รวมถึงก้าวสุดท้ายจะส่งนักท่องเที่ยวกลับบ้าน ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ทีมงานคิดมาอย่างดี“มั่นใจว่าอีก ๓-๖ เดือน จะมีเวิลด์อีเวนต์ทยอยมาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยถือว่าเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ เรียกว่าเป็นพี่ใหญ่ในเรื่องท่องเที่ยว เรื่องนี้ผู้นำญี่ปุ่นเป็นคนพูด ไม่ใช่พูดกันเอง”“ไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว การเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกยิ่งขึ้น ยกระดับภูมิภาคอาเซียนไปสู่ระดับโลกได้”ฉะนั้นที่มีข่าวว่า “สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” รัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ จะถูกถอดจึงไม่น่าจะมีความเป็นไปได้เพราะนายกรัฐมนตรียังออกปากชื่นชมต้องยอมรับอยู่อย่างหนึ่งว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเรื่องท่องเที่ยวอย่างจริงจัง และมีมาตรการต่างๆ ที่ส่งเสริมอย่างได้ผล เช่น วีซ่าฟรีกับหลายประเทศ ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างชัดเจนการจัดงานในเทศกาลต่างๆ เช่น สงกรานต์ ที่เพิ่มระยะเวลาให้นานขึ้น เพื่อหวังดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งว่าไปแล้ว การส่งเสริมเรื่องท่องเที่ยว จึงเป็นหนทางที่ดีที่สุดของไทยเพียงแต่ต้องคิดหารูปแบบและวิธีการต่างๆ เพื่อดึงดูดและล่อใจให้มากยิ่งขึ้น!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม
