ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ แจงหลังประกาศเขตภัยพิบัติฯ (อัคคีภัย) เผยพร้อมดูแลกลุ่มเปราะบางอย่างเต็มที่ เตรียมกำลังพลเสริมทดแทนเจ้าหน้าที่ที่เหนื่อยล้า และต้องการกำลังสนับสนุนมากกว่าที่เป็นอยู่เมื่อวันที่ ๖ เม.ย. ๖๗ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เปิดเผยหลังจากมีการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อัคคีภัย ไฟป่า ในพื้นที่ อ.เชียงดาว, อ.แม่แตง, อ.ไชยปราการ, อ.ฝาง และ อ.พร้าว เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีไฟไหม้ป่าเกิดขึ้นจำนวนมาก ติดต่อกันหลายวัน ทำให้การปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ โดยใช้กำลังหน่วยปฏิบัติปกติ ร่วมกับกำลังทหารที่มีอยู่ในชุดแรกเริ่มอ่อนล้า และต้องการกำลังสนับสนุนมากกว่าที่เป็นอยู่จ.เชียงใหม่ จึงจำเป็นต้องบริหารสถานการณ์ให้เหมาะสมมากที่สุด ด้วยการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เขตการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอัคคีภัย ไฟป่า ในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเพิ่มการใช้กำลังทหารให้เหมาะสมกับสภาพความรุนแรงของสถานการณ์ และเปิดโอกาสให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสามารถใช้เงินทดรองราชการในส่วนของตัวเองได้ โดยมีระเบียบกระทรวงการคลัง รองรับหลังการประกาศ เพื่อการใช้จ่ายงบประมาณที่ถูกต้องเหมาะสมและเกิดประโยชน์ในทางการบริหารสถานการณ์มากที่สุดขณะเดียวกัน จังหวัดเชียงใหม่ได้ประสานไปยังแม่ทัพภาคที่ ๓ แล้ว เพื่อขอกำลังทหารเข้าไปช่วยเขตป่าอุทยานแห่งชาติและป่าสงวนแห่งชาติมากขึ้น อย่างไรก็ตาม จังหวัดเชียงใหม่ยังไม่สามารถประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน กรณีฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ได้ เพราะเป็นภัยที่ไม่มีระเบียบกระทรวงการคลังรองรับการใช้จ่ายงบประมาณ จึงไม่เกิดประโยชน์ในทางการบริหารสถานการณ์ พร้อมกันนี้ เพื่อให้อำเภอและจังหวัดสามารถดูแลประชาชน กลุ่มเปราะบางในพื้นที่ประสบภัยได้อย่างเต็มที่ จังหวัดจึงได้เชิญส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันหารือถึงวิธีการปฏิบัติแล้ว