เจ้าหน้าที่รัสเซียเร่งอพยพประชาชนนับหมื่นในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ หลังจากเกิดน้ำท่วมเนื่องจากเหตุเขื่อนแตกในเมืองออร์สค์เจ้าหน้าที่รัสเซีย กล่าวว่า ประชาชนหลายพันคนกำลังเร่งอพยพออกจากพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เลวร้ายจากเหตุเขื่อนแตกในเมืองออร์สค์ ก่อนหน้านี้ มีการประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วทั้งภูมิภาคโอเรนเบิร์ก หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำอูราลเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการละลายของน้ำแข็งเจ้าหน้าที่ กล่าวว่า ประชาชน ๑๐,๐๐๐ คน อาจอยู่ในเขตน้ำท่วม และบ้านเรือนมากถึง ๔,๐๐๐ หลัง อาจถูกน้ำท่วม โดยภาพที่ไม่ได้รับการยืนยันในแอปเทเลแกรมพบว่ามีน้ำพุ่งทะลุรอยแยกในเขื่อนดินกระทรวงเหตุฉุกเฉินของรัสเซีย ระบุในแถลงการณ์ว่า การทำงานในพื้นที่เขื่อนแตกในออร์สค์ยังคงดำเนินต่อไป พร้อมเสริมว่า มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ราว ๔๔๐ คน และอุปกรณ์ ๒๑๗ ชิ้น เพื่อพยายามซ่อมแซมเขื่อนที่ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ชาวเมืองออร์สค์มากกว่า ๑,๑๐๐ คน กำลังได้รับการอพยพออกจากพื้นที่ไปยังศูนย์ที่พักชั่วคราว รวมถึงประชาชนจำนวนมากในภูมิภาคเลนินสกี และโซเวตสกี ที่อยู่ใกล้เคียงเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน กล่าวว่า พบผู้เสียชีวิตแล้ว ๓ ศพ หลังจากการลาดตระเวนในพื้นที่น้ำท่วม แม้ว่าการเสียชีวิตดังกล่าวไม่ถือว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับน้ำท่วมก็ตามวาซิลี โคซูปิตซา นายกเทศมนตรีออร์สค์ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมเลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว โดยครึ่งหนึ่งของเขตเมืองเก่าของเมืองออร์สค์ถูกน้ำท่วม และพื้นที่ส่วนที่เหลือมีแนวโน้มที่จะถูกตัดขาดจากส่วนอื่นๆ ของเมืองในเร็วๆ นี้ ด้านหน่วยฉุกเฉินในพื้นที่ ระบุว่า กำลังเร่งดำเนินการเพื่อยับยั้งเหตุน้ำท่วมในเมืองออร์สค์ ที่มีประชากรประมาณ ๒๓๐,๐๐๐ คน ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ ๑,๘๐๐ กิโลเมตรพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งรวมถึงเมืองออร์สค์และภูมิภาคโอเรนเบิร์ก ภูมิภาคอูราลอื่นๆ และบางส่วนของคาซัคสถานที่อยู่ใกล้เคียง ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นวงกว้างในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ด้านประธานาธิบดีคัสซิม-โจมาร์ต โตคาเยฟ แห่งคาซัคสถาน กล่าวว่าน้ำท่วมครั้งนี้อาจเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เลวร้ายที่สุดของประเทศในรอบ ๘๐ ปี.ที่มา BBCติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign
