พื้นที่ทางเหนือของคาซัคสถานและทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย กำลังเผชิญน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ซึ่งทำให้ต้องอพยพประชาชนกว่า ๑๖,๐๐๐ คนแล้วสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประชาชนนับหมื่นคนต้องอพยพจาก ๑๐ ภูมิภาคทางตอนเหนือของประเทศคาซัคสถาน หลังจากเกิดน้ำท่วมใหญ่ เนื่องจากการละลายของหิมะ ขณะที่ข้ามชายแดนมาที่รัสเซีย โรงกลั่นน้ำมันในเมืองออร์สค์ ซึ่งห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว ๑,๘๐๐ กม. ก็ต้องหยุดทำการ เพราะน้ำท่วมหนักเช่นกันรัฐบาลเครมลินเตือนในวันอาทิตย์ที่ ๗ เม.ย. ๒๕๖๗ ว่า ระดับน้ำในบางพื้นที่อาจเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบ ๑๐๐ ปีที่ผ่านมา ขณะที่ วลาดิเมียร์ ปูติน สั่งการให้ผู้ว่าการแคว้นต่างๆ ในภูมิภาคไซบีเรียอย่าง ตูย์เมน (Tyumen) และ เกอร์กาน (Kurgan) ทางตะวันออก เตรียมรับมือการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำ และน้ำท่วม “ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”เมื่อวันเสาร์ ทางการรัสเซียเพิ่งอพยพประชาชนเกือบ ๔,๕๐๐ คน ในแคว้นโอเรนเบิร์ก ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองออร์สค์ หลังเขื่อนแตกในช่วงกลางคืน ทำให้น้ำจากแม่น้ำอูราล ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นมากเพราะการละลายของน้ำแข็ง ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็วด้านหน่วยงานสภาพอากาศของรัสเซียเตือนว่า ระดับน้ำของแม่น้ำอูราลจะเพิ่มขึ้นจนถึงระดับอันตรายในช่วง ๓ วันข้างหน้า ขณะที่ทางการท้องถิ่นคาดว่า สถานการณ์น้ำท่วมจะถึงจุดสูงสุด หรือ จุดพีก ในวันอังคารนี้ (๙ เม.ย.) และสถานการณ์จะกลับมามั่นคงหลังวันที่ ๒๐ เมษายนส่วนที่คาซัคสถาน กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินเปิดเผยในวันอาทิตย์ว่า ขณะนี้มีประชาชนราว ๑๒,๐๐๐ คน ต้องอาศัยอยู่ในที่พักชั่วคราวหลังจากอพยพหนีน้ำท่วม ขณะเดียวกัน หน่วยกู้ภัยก็สามารถขนย้ายสัตว์ในฟาร์มราว ๖๐,๐๐๐ ตัว หนีน้ำท่วมไปยังที่ปลอดภัยได้สำเร็จประธานาธิบดี คาสซีม-โจมาร์ท โตคาเยฟ กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า เหตุน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งเลวร้ายที่สุดที่เล่นงานคาซัคสถานในรอบกว่า ๘๐ ปี ซึ่งรัฐบาลกำลังเพิ่มความพยายามในการลดผลกระทบจากน้ำท่วม และให้ความช่วยเหลือทุกอย่างที่จำเป็นติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreignที่มา : bbc
