Thursday, 19 December 2024

นายกฯ ไทยบอกรอยเตอร์ส รบ.เมียนมาเริ่มอ่อนกำลัง-โอกาสดีเปิดเจรจา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีไทย ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ส ระบุว่า ตอนนี้รัฐบาลทหารเมียนมาเริ่มอ่อนกำลังลง ซึ่งเป็นโอกาสดีที่จะเปิดเจรจาสำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย ให้สัมภาษณ์กับพวกเขาเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๗ เม.ย. ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา โดยนายกฯ ไทยบอกว่า ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีในการเปิดเจรจากับเมียนมาแล้ว เนื่องจากรัฐบาลทหารซึ่งยึดอำนาจมาตั้งแต่ปี ๒๕๖๔ กำลังอ่อนแอลงการให้สัมภาษณ์ของนายกฯ เศรษฐา เกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมากำลังปะทะกับกองกำลังฝ่ายต่อต้านพร้อมกันหลายด้าน ซึ่งทำให้พวกเขาสูญเสียการควบคุมค่ายทหารและเมืองไปแล้วหลายแห่ง รวมถึงล่าสุดคือ เมืองเมียวดี เส้นทางการค้าสำคัญที่เชื่อมต่อกับ อ.แม่สอด จ.ตาก ของประเทศไทย เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาการลุกฮือขึ้นต่อต้านดังกล่าวถือเป็นความท้าทายใหญ่ที่สุดที่รัฐบาลทหารของเมียนมาเผชิญ นับตั้งแต่ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลนางอองซาน ซูจี ในปี ๒๕๖๗“รัฐบาลปัจจุบันของเมียนมาเริ่มสูญเสียกำลังไปบ้าง” นายเศรษฐากล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ที่เกาะสมุย พร้อมเสริมว่า “แต่ถึงแม้พวกเขากำลังเพลี่ยงพล้ำ แต่พวกเขายังมีอำนาจ พวกเขายังมีอาวุธ” “บางทีอาจถึงเวลาที่จะต้องติดต่อประสาน แล้วเจรจาตกลงกัน”ทั้งนี้ รอยเตอร์ส ระบุว่า นับตั้งแต่นายเศรษฐารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปลายเดือนสิงหาคม ไทยก็พยายามเข้าไปมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในเมียนมาหลายครั้ง รวมถึงการส่งความช่วยเหลือแก่เมียนมาภายใต้หลักมนุษยธรรม เพื่อปูทางสู่การเจรจาระหว่างคู่ขัดแย้งในเมียนมาเมื่อเดือนก่อนรัฐบาลไทยเพิ่งจัดงานสัมมนาเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองในเมียนมา ซึ่งไทยได้เชิญตัวแทนของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมามาร่วมพูดคุยด้วย แม้รัฐบาลเมียนมาจะต่อต้านอย่างหนักนายกฯ เศรษฐา ย้ำว่า เมียนมามีความสำคัญอย่างมากต่อประเทศไทย ซึ่งตัวเขากับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ได้พูดคุยกับหลายฝ่ายทั้งในเมียนมา และหุ้นส่วนระหว่างประเทศอย่างจีน และสหรัฐอเมริกา มาโดยตลอด “ประเทศที่จะได้ประโยชน์ที่สุดหากเมียนมามีเอกภาพ, สันติภาพ และความเจริญรุ่งเรือง ก็คือประเทศไทย”นายเศรษฐา บอกด้วยว่า เขากำลังวางแผนเจรจากับคณะรัฐมนตรี, เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการทหารและความมั่นคง ในวันอังคารนี้ เรื่องการจัดทำนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเมียนมา.ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreignที่มา : reuters