Thursday, 19 December 2024

แจง "ดิจิทัลวอลเล็ต" ทำไมต้องใช้ในร้านค้าขนาดเล็กก่อน ถึงเบิกเป็นเงินสดได้

“เงินดิจิทัลวอลเล็ต” เติมเงินครั้งเดียว แจงเหตุผล ทำไมต้องกำหนดใช้ในร้านค้าขนาดเล็กก่อน ๒ รอบ ถึงเบิกเป็นเงินสดได้ ย้ำเพื่อช่วยป้องกันทุจริต และกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้าน เศรษฐา ยัน ไม่ติดใจ ธปท.ส่งตัวแทนร่วมประชุมวันที่ ๑๐ เม.ย. ๖๗ ที่ทำเนียบรัฐบาล คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet (คณะกรรมการฯ) ในคราวประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๖๗ ได้เห็นชอบกรอบหลักการโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet (โครงการฯ)นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ในการแถลงข่าวโครงการเติมเงิน ๑ หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า รัฐบาลเราต้องฟังเสียงทุกคน ให้ข้อแนะนำ ข้อเสนอแนะ ยืนยัน เราต้องดูอย่างละเอียด ผลประโยชน์ทุกอย่างต้องตกอยู่กับประชาชน ส่วนคำถามเงินที่จะเอาธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ธกส. จะสามารถใช้หนี้เท่าไร นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เราใช้เงิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ในปีงบประมาณ ๖๘ ซึ่งมีคำถาม ๒ ข้อคือ อำนาจของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรทำได้หรือไม่ คณะกรรมการตรวจสอบแล้ว ยืนยันสามารถทำได้ และคำถามกระทบสภาพคล่อง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรหรือไม่ ยัน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรมีสภาพคล่องดี ส่วนคำถามการเติมเงินแบ่งเป็นรอบอย่างไร นายจุลพันธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง ยืนยันว่า เป็นการใส่เม็ดเงินเป็นลอตเดียว ครั้งเดียว ส่วนคำถามว่าทำไมต้องกำหนดใช้เงินให้ร้านค้าขนาดเล็กก่อน ถึงจะสามารถเบิกเงินได้ในรอบที่ ๒ นั้น เหตุเพราะทางคณะกรรมการฯ มีข้อห่วงใยเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน โดยคณะกรรมการฯ เสนอให้กลไลใช้จ่ายเงินเป็น ๒ รอบ เพื่อความเหมาะสม ให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ รอบแรกให้ใช้กับร้านขนาดเล็ก ใช้แล้วร้านค้าขนาดเล็กเอาเงินไปซื้อสินค้าทุน แล้วจึงเบิกเงินสดในรอบที่ ๒ ได้ส่วนคำถามว่า ผู้ว่าฯ ธปท.ไม่ได้มาร่วมประชุมในครั้งนี้ แต่ส่งตัวแทนมา รู้สึกอย่างไรนั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ไม่น่าเป็นประเด็นอะไร ก็มีการส่งตัวแทน ธปท.มา และท่านบอกก่อนแล้วว่าติดภารกิจ ส่วนตัวก็ไม่ได้ติดใจอะไร หรือมีปัญหาอะไร ส่วนคำถามว่า ช่วยขยายความร้านค้าขนาดเล็ก รวมถึงร้านสะดวกซื้อด้วยหรือไม่ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการการคลัง กล่าวว่า เหตุผลในการเลือกร้านค้าขนาดเล็กก่อน ร้านค้าขนาดเล็ก รอบแรกจะไม่รวมห้างสรรพสินค้า หรือ ค้าปลีกขนาดใหญ่ แต่รวมถึงร้านสะดวกซื้อลงมาในสถานบริการน้ำมันด้วย เพื่อต้องการให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วประเทศ.