Thursday, 19 December 2024

๕ เรื่องเตือนใจให้ชัวร์ก่อนขับ รับสงกรานต์ด้วยความปลอดภัยในทุกมิติ

● ดื่มไม่ขับเทศกาลแห่งความสุข ก็อาจกลายเป็นเรื่องสุดเศร้า จากข้อมูลการบาดเจ็บและเสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ๕ ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.๒๕๖๑ – ๒๕๖๕) มีผู้ขับขี่ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการดื่มแล้วขับเฉลี่ย ๒๓,๐๒๖ คน อย่าลืมว่าทุกการดื่มไม่ว่าจะแก้วเดียว กระป๋องเดียว ชอตเดียว จะเพียวหรือมิกซ์ ก็มีผลออกฤทธิ์กดประสาท สมองทำงานช้าลง การมองเห็นที่แย่ลง อาจเกิดภาพเบลอ ภาพซ้อน เห็นวัตถุผิดขนาด โดยผู้ขับขี่ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด ๕๐ มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือเทียบเท่าเบียร์แค่ ๑-๒ กระป๋อง (ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล) ก็มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุเพิ่มเป็น ๒ เท่า ● โทรไม่ขับการใช้โทรศัพท์มือถือไม่ว่ากรณีใดๆ อาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพราะทำให้การรับรู้ทั้ง สายตา หู มือและประสาทสัมผัส ของผู้ขับขี่ลดลง อีกทั้งยังมีกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถอย่างเข้มงวด มีโทษปรับสูงสุดถึง ๔,๐๐๐ บาท แต่ผู้ขับขี่ควรมีเบอร์โทรสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือการร้องขอความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว เช่น เบอร์โทรแจ้งประกันรถยนต์ สายด่วนที่ควรรู้ ๑๖๖๙ หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน, ๑๑๙๓ ตำรวจทางหลวง, ๑๖๗๗ สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน ฯลฯ● ง่วงไม่ขับการหลับใน ไม่ต่างอะไรจากการหูหนวก ตาบอด เป็นอัมพาต หมดสติไปชั่วครู่ จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ไม่แพ้การดื่มแล้วขับเลยทีเดียว เนื่องจากผู้ขับขี่ที่ง่วงมักมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินช้าลง ตัดสินใจผิดพลาด จนไม่ได้เหยียบเบรกหรือพุ่งชนสิ่งกีดขวาง ถ้าขับขี่ด้วยความเร็ว ๑๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง การวูบหลับไปเพียง ๓ วินาที จะทำให้รถไถลไปไกลถึง ๘๔ เมตร และแน่นอนว่าลักษณะการชนมักรุนแรงเพราะคนขับไม่ได้หักหลบหรือเหยียบเบรก ทำให้บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตได้เสมอนอกจากนี้ตามประมวลฐานความผิดตาม พระราชบัญญัติขนส่งทางบก ๒๕๒๒ ระบุว่า ผู้ขับขี่รถขณะร่างกายหรือจิตใจหย่อนความสามารถมีความผิดตาม ม.๑๐๓ บทลงโทษปรับไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท ถ้าผู้ขับขี่เริ่มรู้ตัวว่ามีอาการง่วงให้รีบจอดพักงีบสักครู่หนึ่ง ร้องเพลง เคี้ยวหมากฝรั่ง ดื่มกาแฟ และควรมีเพื่อนร่วมทางผลัดเปลี่ยนกันขับรถเมื่อต้องเดินทางไกล● เร็ว ลื่น ไม่ขับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีการสาดน้ำกันตามจุดต่างๆ อาจจะทำให้พื้นถนนเปียกลื่นและควบคุมรถได้ยากขึ้น ควรลดความเร็วลงทุกครั้ง และให้เว้นระยะจากคันหน้ามากกว่าปกติเพื่อให้มีระยะเบรกที่มากพอ ไม่เปลี่ยนเลนไปมา ถ้าถนนลื่นให้เหยียบแป้นเบรกเบา ๆ ประมาณ ๓ – ๔ ครั้ง เป็นการเช็กสภาพและทำให้เบรกทำงานดีขึ้น ควรหลีกเลี่ยงถนนที่เป็นแอ่งน้ำป้องกันอาการยางเหินน้ำ หรือกรณีที่ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ชัดเจน ก็สามารถเปิดไฟหน้าช่วยให้รถคันด้านหน้าหรือคันที่สวนทางมามองเห็นไฟจากรถเราได้ง่ายขึ้น รวมทั้งควรตรวจสอบสภาพยางทุกเส้นรวมทั้งยางอะไหล่ ให้มีความลึกพอจะรีดน้ำได้ดี เติมลมยางให้พร้อมก่อนออกเดินทางเสมอ● ไม่พร้อม ไม่ขับควรอยู่ในสภาพพร้อมเดินทางไกลทั้งคนและรถ เช่น ตรวจสอบไฟหน้า ไฟหลัง แบตเตอรี่ ถังน้ำมัน ที่ปัดน้ำฝนต้องรีดน้ำบนกระจกได้เต็มประสิทธิภาพ สัญญาณไฟเตือนต่างๆ สายเบรก สายลากรถ สายพ่วงแบตเตอรี่ ประแจ แม่แรง และที่เติมลมพกพา หรือถ้าเป็นการขับขี่มอเตอร์ไซค์ก็ต้องมีหมวกกันน็อกทุกครั้งทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย รวมทั้งมีการวางแผนเส้นทางและพร้อมรับมือกับสภาพการจราจรที่อาจจะติดขัดในบางจุด มีแผนสำรองเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันเสมอ ไม่ขับรถเร็ว ไม่ใช้อารมณ์หรือประมาทเวลาขับขี่ ไม่แซงทางโค้ง ไม่ฝ่าไฟแดง ไม่เปลี่ยนเลนด้วยความคึกคะนอง และเพื่อให้ทุกคนมีแนวทางการขับขี่อย่างปลอดภัย ในช่วงเทศกาลแห่งความสุข อย่าลืม! ดาวน์โหลดคู่มือ #Saveสมอง จากอุบัติเหตุการขับขี่ โหลดฟรีและอ่านเวอร์ชันออนไลน์ได้ที่นี่ คลิกเลย : https://www.thaihealth.or.th/?p=๓๕๓๒๖๕กดติดตามข้อมูลข่าวสาร แคมเปญที่น่าสนใจ และกิจกรรมดีๆ จาก สสส. เพิ่มเติมได้ที่ :Facebook : Social Marketing Thaihealth by สสส.Line : @thaihealththailandTiktok: @thaihealthYoutube: SocialMarketingTHWebsite : Social Marketing การตลาดเพื่อสังคม#PRNews