ช้างป่าท่ากระดาน บุกกระทืบตาวัย ๖๕ ปี ดับขณะจอดซาเล้งลงไปซื้อของร้านของชำหน้าหมู่บ้าน ทำชาวบ้านผวาหนัก ต้องบูรณาการ ทหารพราน เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ อาสาสมัครชุดเฝ้าระวังช้างป่าของ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เดินปูพรมติดตามช้างป่าตัวก่อเหตุ ผลักดันให้ได้ภายใน ๒๔ ชั่วโมงเวลา ๒๒.๐๐ น. วันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๗ นายทรัพย์ทวี กุลสารี นายก อบต.ท่ากระดาน และ ร.อ.สุระ โสรักนิษฐ์ ผู้บังคับการกองร้อยทหารพรานที่ ๑๓๐๖ ได้รับแจ้งเหตุมีชาวบ้านถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต ในพื้นที่ ม.๒๑ บ้านคลองเตย ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยร้อยเวรตำรวจ สภ.สนามชัยเขต เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ อาสาสมัครอบต.ท่ากระดาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านพบศพ นายประหยัด ชะลิตะ อายุ ๖๕ ปี นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณใต้ต้นไม้ในป่ายางข้างทาง สภาพศพคว่ำหน้า มีร่องรอยบาดแผลขนาดเท่าฝ่ามือที่ศีรษะด้านหลัง มีเลือดไหลบริเวณใบหน้า เลือดออกปากจมูก คาดว่าถูกช้างทำร้ายจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ห่างออกมาประมาณ ๓ เมตร ข้างทางฝั่งตรงข้ามติดถนน พบรถซาเล้งของผู้ตายจอดอยู่หน้าร้านขายของชำใจกลางชุมชนสอบถาม นายวิลัย พาเวก อายุ ๖๗ ปี เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ติดร้านชำที่ผู้เสียชีวิตเข้ามาซื้อก่อนโดนช้างทำร้าย กล่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุนั้นตนนั่งอยู่ในบ้าน แต่ได้ยินเสียงคนร้องเหมือนโดนช้างทำร้าย คาดว่าคนตายน่าจะโดนช้างเอางวงรัดเหวี่ยงไปฝั่งตรงข้าม ซึ่งช้างตัวนี้มาแถวบ้านบ่อย เป็นช้างขนาดใหญ่ มีงาประมาณแขน โดยก่อนผู้ตายจะถูกช้างทำร้าย ได้จอดรถซาเล้งและเดินมาเรียกเจ้าของร้านขายของชำให้เปิดเพื่อจะซื้อของ ระหว่างนั้นคาดว่าช้างได้เดินเข้ามาและใช้งวงจับเหวี่ยงไปอีกฝั่งถนนซึ่งเป็นป่ายาง และพุ่งเข้าไปทำร้ายจนเสียชีวิตอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งตอนนี้ครอบครัวตนและชาวบ้านที่นี่เกิดความหวาดกลัวช้างป่าเป็นอย่างมาก ทางด้าน นายทรัพย์ทวี กุลสารี นายก อบต.ท่ากระดาน ได้ลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่คาดฝัน เพราะว่าช้างเดินมาบนถนนแถมยังเป็นเขตชุมชน คนมาซื้อของที่ร้านค้าไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ โดยตอนนี้ต้องยอมรับว่าหมู่บ้านนี้เหมือนเป็นหน้าด่านที่อยู่ติดกับคูกั้นช้าง และเรากำลังซ่อมคูกั้นช้างที่เสียหายให้กลับมาใช้งานได้ ยังไม่แล้วเสร็จ หากคูกั้นช้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว สามารถที่จะป้องกันได้ ๖๐-๗๐% แต่ตอนนี้ตนก็พยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชาวบ้านในพื้นที่อย่างเต็มที่ ต่อมา นางสาวนา ชะลิตะ บุตรสาวผู้ตาย ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ปกติพ่อทำอาชีพรับจ้างกรีดยาง ก่อนเกิดเหตุได้ออกมาที่ร้านค้าเพื่อซื้อของ เมื่อถามว่า ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางสาวนา กล่าวทั้งน้ำตาว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำซาก ซึ่งช้างป่ามันออกมาตรงนี้เยอะมากๆ
