วันสองวันมานี้ มีข่าวคราวปรากฏในเว็บไซต์บันเทิงทั้ง โรลลิง สโตนส์ หรือวาไรตี ดอทคอม ที่น่าจะทำให้แฟนานุแฟนของวงดนตรีระดับตำนานของอังกฤษ “เดอะ บีเทิลส์” ชุ่มใจ โดยระบุว่าภาพยนตร์สารคดี “เล็ท อิท บี” (Let It Be) เรื่องราวของ “วงสี่เต่าทอง” ที่เคยออกฉายในปี ๒๕๑๓ ผลงานของผู้กำกับ ไมเคิล ลินเซย์-ฮอกก์ กำลังจะนำมาฉายในแพลตฟอร์มสตรีมมิงทาง “ดีสนีย์ พลัส”การนำมากลับมาฉายใหม่ของ “เล็ท อิท บี” ในรอบ ๕๔ ปี ไม่เพียงเป็นการปัดฝุ่นออกและยังได้รับการบูรณะใหม่โดยทีมงาน พาร์ค โร้ด โพสต์ โปรดักชัน (Park Road Post Production) ของ ปีเตอร์ แจ็กสัน ผู้กำกับนามกระเดื่องที่ฝากฝีมือไว้กับมหากาพย์ภาพยนตร์ “เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์” (The Lord of the Rings) ให้เป็นตำนานแห่งฮอลลีวูดเมื่อ “เล็ท อิท บี” ฉบับฟื้นฟูใหม่ที่จะออกสู่สายตาชาวโลกอีกครั้งผ่านมือของแจ็กสัน ก็ชวนให้คาดหวังว่าสารคดีที่ไม่มีใครเห็นมากว่าครึ่งศตวรรษ…จะเป็นอย่างไร ซึ่งตามการคุ้ยแคะของสื่อเทศเผยว่า สารคดีดังกล่าวใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในการสร้างฟุตเทจในสารคดีสุดคลาสสิกเรื่อง “เดอะ บีเทิลส์ : เก็ทแบ็ค” (The Beatles : Get Back) ที่แจ็กสันทำออกมาในปี ๒๕๖๔ โดยจะมีรูปลักษณ์และเสียงที่มีชีวิตชีวาเหมือนต้นฉบับ ซึ่ง “เดอะ บีเทิลส์ : เก็ท แบ็ค” ที่สตรีมบนดีสนีย์พลัส ก็ได้รับเสียงชมอื้ออึงเกือบทั่วโลกแจ็กสัน เผยว่าใช้เวลาหลายชั่วโมงในการ ตัดต่อฟุตเทจเก่าๆ ของ ลินด์เซย์-ฮอกก์และบอกตัวเองตลอดเวลาถึงจุดมุ่งหมายในการทำงานชิ้นใหม่นี้ ก็เพื่อเสริมภาพยนตร์สารคดีต้นฉบับไม่ใช่มาแทนที่ และคิดเสมอว่าจำเป็นต้องมี “เล็ท อิท บี” เพื่อเติมเต็มเรื่องราวใน “เก็ท แบ็ค” นอกจากนี้ แจ็กสันยังอธิบายว่า ทั้ง ๒ โปรเจกต์คือการสนับสนุนและส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดย “เล็ท อิท บี” คือจุดไคลแมกซ์หรือจุดสำคัญของ “เก็ท แบ็ค” ในขณะที่ “เก็ท แบ็ค” จะมอบเรื่องที่เกี่ยวข้องหรืออะไรรอบๆ ด้านอันสำคัญยิ่งที่ขาดหายไปสำหรับ “เล็ท อิท บี”ทั้งนี้ “เล็ท อิท บี” เวอร์ชันต้นฉบับออกฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อเดือน พฤษภาคม๒๕๑๓ โดยไร้เงาของสมาชิกวง เดอะ บีเทิลส์ มาปรากฏตัว ซึ่งสารคดีนี้ถูกเผยแพร่เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจาก พอล แมคคาร์ทนีย์ ประกาศแยกทางจากวงอย่างเป็น ทางการ และถ้าไม่มีการผิดนัด ผู้ชมจะได้ชม “เล็ท อิท บี” ในเดือน พฤษภาคมปีนี้แน่นอนซึ่งจะได้พิสูจน์ว่าการบูรณะแบบดิจิทัลได้ เปลี่ยนรูปลักษณ์และเสียงของ “เล็ท อิท บี” ไปอย่างไร.ภัค เศารยะคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม
