Tuesday, 19 November 2024

กาสิโน Entertainment Complex

วันเสาร์สบายๆ ท่ามกลางอุณหภูมิ ๔๐ องศาเซลเซียสแต่รู้สึกว่าร้อนเหมือน ๔๖–๔๗ องศาเซลเซียส เราไปคุยเรื่อง “บ่อนกาสิโน” หรือ Entertainment Complex กันนะครับ รัฐบาลเพื่อไทยกำลังผลักดันให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อหารายได้เข้ารัฐที่กำลังขาดดุลมหาศาลทุกปี ก่อนวันสงกรานต์ “ด็อกเตอร์เอ้” สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์บทความเรื่อง “กาสิโนเสรี” ใน โซเชียลมีเดีย มีคนรักชาติบ้านเมืองแชร์กันมากมาย ผมเลยขออนุญาต “ด็อกเตอร์เอ้” ตรงนี้นำมาเผยแพร่ต่อในสื่อหลักนะครับดร.เอ้ เริ่มว่า “ในวันที่ลำบากที่สุด” ทำไม “ลีกวนยู” รัฐบุรุษแห่งสิงคโปร์ เลือกพัฒนา “คุณภาพคน” และ “คุณภาพข้าราชการ” ก่อนเปิดกาสิโน เราได้เรียนรู้อะไร?การอ้างเศรษฐกิจจะดีจะสร้างรายได้จาก “กาสิโนเสรี” ในชื่อ แอบแฝง “Entertainment Complex” ชวนน่าสงสัยอันตรายอย่างยิ่ง และการนำเรื่องกาสิโนไปเปรียบกับ สิงคโปร์ แต่ไม่ไปเปรียบกับ เมียนมา และกัมพูชา ยิ่งสะท้อนความวิบัติในตรรกะเช่นกัน เพราะการมีกาสิโนในประเทศข้างบ้าน สะท้อนความจริงว่า “ชาวบ้านได้อะไร” ยังคงยากจนข้นแค้น แต่คนได้คือ “นายทุน” และ “ผู้นำการเมือง” ผู้อยู่เบื้องหลัง ที่มั่งคั่งบนความเหลื่อมล้ำของสังคม หรือท่านเคยสงสัยไหมว่า ทำไมวันที่สิงคโปร์แยกตัวออกมาจากมาเลเซีย ไม่มีทรัพยากรใด ลำบากยากจน แม้แต่ “ลีกวนยู” นายกรัฐมนตรีถึงกับร้องไห้ทำให้หลายคนรอบตัว ลีกวนยู บอก “นายครับ เราเปิดกาสิโนแบบมาเก๊า เอาเงินเข้าประเทศกันเถอะครับ” จะเป็นทางรอดของสิงคโปร์ แต่ลีกวนยูปฏิเสธไม่มีประเทศไหนไม่อยากได้เงินบริหารประเทศ ลีกวนยู ผู้ที่พ่อ เคยติดการพนัน รู้ซึ้งถึง “อันตรายจากการพนัน” ในวันที่สิงคโปร์ยังไม่พร้อมทั้งเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย การจัดระเบียบราชการ และที่สำคัญที่สุดคือ การศึกษาสร้างภูมิคุ้มกันของคนสิงคโปร์ ที่ “ยังไม่พร้อม” ลีกวนยูจึงประกาศ “มุ่งสร้างคนคุณภาพด้วยการศึกษาที่ดีที่สุด” และ “มุ่งสร้างระบบราชการที่ปราศจากการคอร์รัปชัน” เป็นอันดับแรก จนสิงคโปร์ได้ชื่อว่ามีการพัฒนาคนและพัฒนาระบบราชการโปร่งใสอันดับท็อปของโลก รายได้ประชาชาติหรือจีดีพีต่อคนของสิงคโปร์ จึงเติบโตจาก ๔๐๐ ดอลลาร์ต่อคนในปี ๑๙๖๐ จนมากกว่า ๘๐,๐๐๐ ดอลลาร์ต่อคนในปัจจุบัน หรือโตกว่า ๒๐๐ เท่าตั้งแต่ลีกวนยูเริ่มบริหารประเทศ”แต่การศึกษาอย่างละเอียดเรื่อง “บ่อนกาสิโน” ยังทำต่อเนื่องมาจนถึง สมัย ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีคนที่ ๓ ภายใต้ข้อจำกัดด้านการท่องเที่ยวของเกาะสิงคโปร์ ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ ไม่มีชายหาดที่สวยงาม ไม่มีประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรม ไม่มีสีสันดึงดูดนักท่องเที่ยวเมื่อเทียบกับประเทศไทย ที่มีทั้งสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม อาหาร และธรรมชาติ ที่เหนือกว่าสิงคโปร์ทุกด้าน“ลีเซียนลุง จึงประกาศให้มี “กาสิโน” ด้วยการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านการบังคับใช้กฎหมาย ด้านภูมิคุ้มกันกับประชาชน และด้านการเยียวยาผลกระทบ จากการศึกษามายาวนาน แต่ที่น่าสนใจ เราแทบไม่เคยได้ยินว่า ลีเซียนลุงแสดงความภาคภูมิใจกับผลงานชิ้นนี้ของรัฐบาลเขาเลย (มีแต่นักการเมืองไทยที่ชื่นชม) และยังมีหลายคนพูดว่า หากสิงคโปร์ย้อนเวลากลับไปได้ อาจไม่ทำเรื่องกาสิโนก็ได้ ผมจึงสงสัยอย่างไร้อคติว่า ผู้นำไทยเรียนรู้อะไรบ้างจากผู้นำสิงคโปร์ ทำไมผู้นำไทยจึงเร่งร้อนเลือกทางกาสิโนเสรีก่อน เตรียมความพร้อมด้านการพัฒนาคน และด้านการบังคับใช้กฎหมายผมขอให้ผู้นำไทยมีความเป็น Stateman หรือ รัฐบุรุษ คิดถึงอนาคตของชาติ อนาคตเด็กไทยสักนิดก็ยังดี ก่อนบุ่มบ่ามเปิดบ่อนกาสิโนภายใต้ความ “ไม่พร้อม” เพราะหากผลกระทบที่ตามมา ไม่ใช่อย่างที่พูด คนไทยนอกจากไม่ได้มีรายได้เพิ่มอย่างเท่าเทียม ลูกหลานติดการพนันเสียคน บ่อนนอกพื้นที่อนุญาตเกิดใหม่อย่างไร้การควบคุม รากฐานสังคมถูกทำลาย ถึงวันนั้น ขอโทษ เสียใจ คงไม่พอ”ขอบคุณ ด็อกเตอร์เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ที่เขียนบทความนี้เตือนสติผู้นำไทย.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม