“นายกฯเศรษฐา” ระบุคำสั่งให้ออก “รองโจ๊ก” เป็นเรื่องภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มั่นใจคณะกรรมการ ๓ คนที่ตัวเองตั้งมีความเป็นมืออาชีพไม่ตรวจสอบเฉพาะรองโจ๊ก แต่ตรวจสอบ “บิ๊กต่อ” ด้วย เพื่อความเท่าเทียมกัน ไม่ขอเข้าไปก้าวก่าย แต่ให้ความเป็นธรรมทั้ง ๒ คนแน่ “กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์” รรท.ผบ.ตร. ลั่นไม่หนักใจ มั่นใจดำเนินการตามขั้นตอนและกฎหมาย ด้านคณะพนักงานสอบสวนคดีเว็บพนันบีเอ็นเคมาสเตอร์จำใจหอบสำนวนการสอบสวนทั้งหมดส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณาตามกฎหมาย หลัง ผกก.สส.ภ.จ.สงขลา เข้าแจ้งความเอาผิด ๑ ในนายตำรวจผู้ต้องหาในสำนวน ตาม ม.๑๕๗ และ ๑๔๙ ย้ำ ป.ป.ช. ต้องพิจารณาสำนวนภายใน ๓๐ วัน ฮึ่มถ้าพบการแจ้งความเท็จเพื่อให้สำนวนเข้า ป.ป.ช. ผู้แจ้งต้องถูกดำเนินคดีกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตำรวจถูกชุดพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) สั่งการให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน ออกหมายเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน หลังสอบสวนพบหลักฐานการเงินเกี่ยวพันเว็บไซต์พนันออนไลน์บีเอ็นเคมาสเตอร์ ล่าสุด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งให้ “รองโจ๊ก” พร้อมลูกน้องรวม ๕ คนออกจากราชการไว้ก่อน และตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง มี พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร. เป็นประธานคณะกรรมการ ระบุคำสั่งระหว่างสอบสวนถ้าพบความผิดอื่นให้ดำเนินการด้วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นความคืบหน้าจากท่าอากาศยานทหาร ๒ กองบิน ๖ ดอนเมือง เมื่อเวลา ๐๗.๕๐ น. วันที่ ๑๙ เม.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตำรวจรรท.ผบ.ตร. ติดตามไปด้วย กรณีเซ็นคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อนว่า ในข้อเท็จจริงแล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกให้มาช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาล ระหว่าง ๓-๔ สัปดาห์ที่ผ่านมามีการดำเนินการตรวจสอบ ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๘ เม.ย. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตำรวจมาหาพูดคุยกัน และแจ้งให้ทราบว่า ต้องรีบให้ส่งตัว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ตนทราบ เพื่อไปดำเนินการต่อ“คำสั่งเมื่อวันที่ ๑๘ เมษายนไม่เกี่ยวข้องกับการที่ผมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงข้อกฎหมายกรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด เป็นกรรมการ และ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีต รอง ผบ.ตร. เป็นกรรมการและเลขานุการขึ้นมาตรวจสอบ ด้านการตรวจสอบก็ตรวจสอบไป เพราะมีอีกหลายเรื่องที่ต้องตรวจสอบ” นายเศรษฐากล่าวนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า เราทราบกันดีว่า คณะกรรมการทั้ง ๓ ท่าน ที่ดำเนินการตรวจสอบนั้น ตรวจสอบทั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตำรวจและ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กำลังตรวจสอบกันอยู่ เรื่องเมื่อวันที่ ๑๘ เมษายนเป็นคนละเคสคนละกรณีกัน ถามว่าในส่วนของคณะกรรมการตรวจสอบทั้ง ๓ ท่านมีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง นายเศรษฐากล่าวว่า อย่างที่บอกแล้วว่าไม่อยากไปกดดัน ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีใครไปก้าวก่ายหรือเร่งรัดอะไร แต่ตนมั่นใจในความสามารถและความเป็นมืออาชีพของทั้ง ๓ ท่านอยู่แล้วว่า ต้องทำให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่สังคมจับตามองอยู่ผู้สื่อข่าวถามว่าการมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะเกรงว่าจะไปแทรกแซงเรื่องการดำเนินคดีใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็เป็นไปตามที่รักษาการ ผบ.ตำรวจบอกไว้ว่า เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องของคณะกรรมการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดการกันมา ถามว่ามีหลายฝ่ายที่ยังตั้งข้อสังเกตกรณีของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และมีการเปรียบเทียบ ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง นายเศรษฐาตอบว่า ตนเชื่อว่าแต่ละกรณีมีความแตกต่างกันไป เรามั่นใจในกระบวนการยุติธรรมว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความเป็นธรรมกับทั้ง ๒ ท่านด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตำรวจรรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้หนักใจอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการตามกฎหมาย เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายนเรียนขั้นตอนให้นายกฯรับทราบหมดแล้วผู้สื่อข่าวรายงานจากคณะพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เวลา ๑๔.๐๐ น. ชุดพนักงานสอบสวนคดีเว็บพนันบีเอ็นเคมาสเตอร์ (BNK Master) นำสำนวนทั้งหมดไปส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เนื่องจากเมื่อวันที่ ๒๕ มี.ค. พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผกก.สส.ภ.จ.สงขลา เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน แจ้งความเอาผิดมาตรา ๑๕๗ และ ๑๔๙ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตัวเองกับ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีเว็บพนันบีเอ็นเคมาสเตอร์ โดย พ.ต.ท.คริษฐ์เข้ามอบตัวในวันดังกล่าว ส่งผลให้ชุดพนักงานสอบสวนคดีนี้จำเป็นต้องนำสำนวนคดีทั้งหมดไปยื่นให้ ป.ป.ช.ตามระเบียบกฎหมายพนักงานสอบสวนต้องให้ ป.ป.ช.เป็นผู้พิจารณาภายใน ๓๐ วัน ประกอบกับชุดพนักงานสอบสวนต้องเอาสำนวนไปชี้แจง ป.ป.ช.ถึงข้อเท็จจริงว่า กรณี พ.ต.ท.คริษฐ์ ถูก พ.ต.อ.ดุสิตกล่าวหานั้น เป็นข้อเท็จจริงหรือไม่และมีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ถือเป็นการกล่าวหาโดยไม่มีพยานหลักฐานประกอบ เพื่อแยกออกจากสำนวนหลักคดี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นผู้ต้องหาด้วย พนักงานสอบสวนจะชี้แจงว่า สำนวนคดีดังกล่าวอยู่ในอำนาจศาลอาญาไม่เกี่ยวกับ ป.ป.ช.เมื่อสำนวนดังกล่าวถึงมือ ป.ป.ช.แล้วมีสิทธิ์พิจารณา แต่ไม่สามารถให้ตำรวจยุติการทำสำนวนต่อได้ หาก ป.ป.ช.พิจารณาโดยไม่คำนึงความถูกต้อง อาจมีสิทธิ์ถูกดำเนินคดีตามมาตรา ๑๕๗ ได้เช่นกัน ทั้งนี้ เมื่อส่งสำนวนดังกล่าวไปให้ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว อำนาจการสอบสวนของชุดพนักงานสอบสวนต้องยุติลงก่อน ถ้า ป.ป.ช.พิจารณาสำนวนในส่วน พ.ต.ท.คริษฐ์ ข้อหา ม.๑๕๗ และ ม.๑๔๙ ว่า ไม่มีมูลความผิด พ.ต.อ.ดุสิตมีสิทธิ์ถูกดำเนินคดีกลับข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จฯเช่นกัน ส่วนเรื่องกรอบเวลาตามระบบกฎหมายระบุว่า หาก ป.ป.ช.พิจารณาแล้วว่าไม่อยู่ในอำนาจ ต้องส่งสำนวนทั้งหมดคืนให้พนักงานสอบสวนหรือตำรวจภายใน ๓๐ วันอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
