นายทรงเกียรติ ตาตะยานนท์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แถลงข่าว “การค้นพบผึ้งหลวงหิมาลัยครั้งแรกในประเทศไทย” ว่า ทีมนักวิจัยประกอบด้วยนายอิสราพงษ์ วรผาบ นักกีฏวิทยา นายนนธวัช ฉัตรธนบูรณ์ ด็อกเตอร์ชวธัช ธนูสิงห์ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ณัฐพจน์ วาฤทธิ์ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ค้นพบผึ้งหลวงหิมาลัย หรือ ApislaboriosaSmith, ๑๘๗๑ บริเวณหน้าผาสูงของอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ในปี ๒๕๖๕ และได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่ชัดของตัวผึ้งหลวงหิมาลัย ซึ่งผึ้งหลวงหิมาลัยเป็นผึ้งหลวงอีกชนิดนอกเหนือจากผึ้งหลวงทั่วไป หรือ Apis dorsataFabricius,๑๗๙๓ ที่เราสามารถพบเห็นได้ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยมีการสร้างรังขนาดใหญ่เป็นคอนเดี่ยว ลักษณะที่แตกต่างที่สำคัญของผึ้งหลวงหิมาลัย ได้แก่ ปล้องท้องที่มักมีสีดำสนิท และขนรอบบริเวณปล้องอกที่มีสีเหลืองทอง ผึ้งหลวงหิมาลัยสามารถพบในบริเวณภูเขาสูงตั้งแต่ ๑,๐๐๐-๔,๕๐๐+ เมตรจากระดับน้ำทะเลและในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น และยังเป็นแมลงผสมเกสรที่สำคัญและจำเพาะต่อสังคมพืชในระบบนิเวศที่สูงนอกจากนี้เป็นที่ทราบกันดีในวงการผู้เลี้ยงผึ้งและศึกษาผึ้งทั่วโลกว่า น้ำผึ้งที่ได้จากผึ้งหลวงหิมาลัย มีคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีที่แตกต่างจากน้ำผึ้งจากผึ้งหลวงทั่วไปและผึ้งชนิดอื่นๆในธรรมชาติ และเป็นที่ต้องการอย่างสูงในตลาด อย่างไรก็ตามข้อมูลเหล่านี้จำเป็นที่ต้องได้รับการศึกษาเพิ่มจากผึ้งหลวงหิมาลัยที่พบในประเทศไทยต่อไป ทั้งนี้ ผึ้งหลวงหิมาลัยที่พบนี้ถือเป็นผึ้งให้น้ำหวานในสกุล Apis ชนิดที่ ๕ ของประเทศไทย จากเดิมที่มีรายงานอยู่เพียง ๔ ชนิด คือ ผึ้งหลวง (Apis dorsata) ผึ้งมิ้ม (Apis florea) ผึ้งม้าน (Apis andreniformis) และผึ้งโพรง (Apiscerana) ซึ่งไม่รวมผึ้งพันธุ์ (Apismellifera) ที่เป็นผึ้งสายพันธุ์ต่างถิ่น.(ภาพจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่