อาทิตย์นี้ข้าพเจ้ารายงานข่าววงการพระเครื่องไทย แบบทางไกลมาจากยุโรป แต่ยังเกาะติดสถานการณ์เปลี่ยนย้ายกุฏิของพระเครื่ององค์สวยต่างๆเริ่มจากองค์แรก พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย วัดใหม่อมตรส บางขุนพรหม กรุงเทพฯ พระแท้ ดูง่าย สบายตา พระสภาพงามสมบูรณ์ระดับแชมป์ “องค์ครู” ดูเป็นกรณีศึกษาได้ทั้งฟอร์มทรง พิมพ์พระ เนื้อมวลสาร ผิวพรรณ วรรณะ คราบฝ้า รากรุ ที่มีปรากฏอย่างบางเบา เปิดเห็นเส้นศิลป์พิมพ์องค์พระอย่างสมบูรณ์คมชัด ที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน องค์นี้ ของ คุณพี่ทิพย์ หัสดินทร์ เป็นองค์หน้าใหม่ของสนามนี้เก่าที่อื่น ซึ่งแฟนคลับยกนิ้วว่า เยี่ยมยอด พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย วัดใหม่อมตรส ของ คุณทิพย์ หัสดินทร์.องค์ที่สอง เป็น พระนางพญา พิมพ์ใหญ่ (เข่าโค้ง) วัดนางพญา อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้ข่าวมาตอนสงกรานต์ เป็นสิริมงคลปีใหม่ไทย ความงามขององค์พระที่เป็นพิมพ์นิยมสุด สภาพสมบูรณ์สวยสะเด็ด พิมพ์องค์พระคมชัด ล่ำ ลึกสุดพิมพ์ เนื้อมวลสารที่ส่องเห็นเบียดแน่นทุกอณูของพระ คราบฝ้ารากรุจับแน่นเข้าเนื้อตามอายุอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นพระสภาพสมบูรณ์สวยเดิม ไร้ริ้วรอยเสริมแต่ง เจ้าของคือ เสี่ยณัฐ สายไหม พระนางพญาพิมพ์ใหญ่ (เข่าโค้ง) วัดนางพญา ของณัฐ สายไหม.องค์ที่สามเป็น พระหล่อรูปเหมือน หลังเตารีด พิมพ์ใหญ่ A พ.ศ.๒๕๐๕ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่ง พระอาจารย์ทิม เจ้าอาวาสขณะนั้น สร้างสมนาคุณผู้บริจาคทรัพย์เป็นทุนบูรณะวัดแทน พระพิมพ์เนื้อว่าน รุ่นแรก ที่ท่านสร้างออกเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๗ ที่หมดไปแล้ว โดยใช้ พระผงเนื้อว่าน นั้น เป็นต้นแบบ มอบให้ เสด็จพระองค์ชายใหญ่ เป็นประธานกรรมการฝ่ายฆราวาส ดำเนินการจัดสร้าง โดยนำแผ่นโลหะเนื้อชนวนมาหลอมหล่อองค์พระที่กรุงเทพฯ แยกเป็นพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็ก แต่ละพิมพ์มีบล็อกแยกย่อย แยกเล่นเป็นหลายแบบ เทหล่อเป็นองค์พระเนื้อโลหะผสมกับเนื้อเมฆพัตรส่วนหนึ่ง–แล้วนำกลับไปทำพิธีปลุกเสก ณ พระอุโบสถ วัดช้างให้ เมื่อเดือน พฤษภาคม๒๕๐๕ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันพระสภาพงามสมบูรณ์เดิมๆ มีราคาสูงถึง หลักล้าน โดยเฉพาะ พิมพ์ใหญ่ A อย่างองค์นี้ของ เสี่ยเฉิน รังเทพ ที่มีโปรไฟล์ ๔ แชมป์งานใหญ่ การันตีว่าเป็นพระแชมป์องค์จริง…ของแท้ สมกับราคา รูปหล่อหลังเตารีด พิมพ์ใหญ่ A พ.ศ.๒๕๐๕ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ของ เฉิน รังเทพ.ต่อด้วย พระพิมพ์สมเด็จ ฐาน ๕ ชั้น พระเทพโมฬี(แก้ว) วัดเฉลิมพระเกียรติ จ.นนทบุรี อีก ๑ พระพิมพ์เนื้อผงพุทธ คุณรูปทรงสี่เหลี่ยม ที่ได้รับความนิยมเรียกเป็น “พระ พิมพ์สมเด็จ” ที่มีราคาหลักหมื่นถึงหลักแสน สร้างไว้โดย พระเทพโมฬี (๒๔๓๔-๒๔๔๓) ได้รับความนิยม ด้วยอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ที่มีเป็นประสบ การณ์ครบเครื่อง ทั้งแคล้วคลาด เมตตามหานิยม–ที่สำคัญเนื้อมวลสารมีส่วน คล้ายพระสมเด็จบางขุนพรหม ของ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) พิมพ์พระที่ได้รับความนิยมเล่นหา อาทิ ๑.พิมพ์ยันต์วา ๒.พิมพ์อักขระ ๕ ตัว ๓.พิมพ์ ๓ ชั้น ๔.พิมพ์ ๕ ชั้น อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยฐิการ ศุภวิรัชบัญชา ที่เป็นพระสภาพเพอร์เฟกต์ แท้ดูง่ายทั้งพิมพ์พระและเนื้อมวลสาร พระพิมพ์สมเด็จ ฐาน ๕ ชั้น พระเทพโมฬี (แก้ว) วัดเฉลิมพระเกียรติ ของฐิการ ศุภวิรัชบัญชา.อีกรายการเป็น เหรียญหล่อพระพุทธ พิมพ์ข้างอุ เนื้อชินตะกั่ว หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ๑ ในพระพิมพ์นิยมมาตรฐาน ได้รับความนิยมสูงเพราะเป็น พระพิมพ์เนื้อโลหะสร้างยุคแรก สร้างด้วยวิธีลบถม แผ่นโลหะจารอักขระยันต์ ๑๐๘ หลอมเทหล่อแบบโบราณ มีเนื้อตะกั่ว เนื้อโลหะผสม เนื้อทองแดง ลักษณะเป็นพระพิมพ์รูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ด้านหน้าเป็นองค์พระพุทธนั่งปางสมาธิ ด้านหลังเรียบ ส่วนใหญ่มีลายมือจารอักขระยันต์ครู แยกพิมพ์ตามรายละเอียดในเส้นศิลป์ได้เป็นพิมพ์ข้างรัศมี พิมพ์ตัดชิด พิมพ์ข้างอุ ฯลฯ อย่างองค์นี้ของ เสี่ยบอมบ์ สุพรรณ ซึ่งเป็นพระสภาพพองาม ผิวเนื้อมีรอยสัมผัสใช้มีริ้วรอยปรากฏ ลบเลือนทั่วองค์ ซึ่งเป็นธรรมชาติของพระที่ผ่านการใช้แบบสัมผัสเนื้อตัวอย่างโบราณ ที่ส่วนใหญ่ ได้รับพระด้วยความศรัทธาก็พกพาใช้บูชาติดตัว หยิบจับใส่มือพนมอาราธนา บางคนใช้ลูบหน้าถูเนื้อถูตัวเพื่อความเชื่อมั่น องค์พระที่มีตกทอดถึงปัจจุบันส่วนใหญ่จึงเป็นพระสภาพพองาม อย่างองค์นี้ ที่ยังมีพิมพ์พระให้ส่องเห็นอย่างสมบูรณ์ รูปทรงคงเดิม เนื้อโลหะมีคราบไคลการใช้ คราบไขตะกั่วบอกอายุ ความเก่า สำคัญสุดคือ รอยสิ่วตัดขอบพิมพ์ ที่เป็น จุดเด็ด เคล็ดลับ ในการพิจารณาขาด พระแท้ถึงยุค แบบดูง่าย ลายมือจารหลังถูกต้องตรงมาตรฐานแบบนี้ นักนิยมพระยุคเก่าแนะนำกันต่อมาว่า ดีแน่แท้ชัวร์ และขลังจริง เหรียญหล่อพระพุทธ เนื้อชินตะกั่ว พิมพ์ข้างอุ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ของบอมบ์ สุพรรณ.ตามมาด้วย พระพิมพ์สมาธิฐานบัว (แจกแม่ครัว) เนื้อผงคลุกรัก หลวงปู่ศุข เกสโร วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท อีก พระพิมพ์นิยม เนื้อนิยม มาตรฐานที่มีผู้แสวงหามาก ราคาสูงลิบ แต่ก็มีคนพร้อมจ่ายเพียบ ที่สำคัญหาพระแท้องค์จริง จ่ายเงินอย่างสบายใจไร้คำครหา อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยสถิต ราชบุรี ที่พระแต่ละองค์ล้วนได้รับความชื่นชมเป็น “พระพันตา” ที่น่าเช่าบูชา ลงทุน หรือเก็บรักษา พระพิมพ์แจกแม่ครัว เนื้อผงคลุกรัก หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ของสถิต ราชบุรี.องค์ที่เจ็ด เป็น เหรียญหล่อรูปเหมือน สี่เหลี่ยม (ซุ้มลึก) เนื้อทองคำ พ.ศ.๒๕๑๙ หลวงพ่อวัดดอนตัน วัดศิลามงคล อ.ท่าวังผา จ.น่าน เป็น พระ รูปเหมือนเนื้อทองคำ พิมพ์สี่เหลี่ยมซุ้มลึก หายาก มีราคาแพงสุด เพราะสร้างเพียง ๑๙ เหรียญ ตามบันทึกของคณะกรรมการจัดสร้าง โดยขออนุญาตหลวงพ่อจัดสร้างหารายได้เป็นทุนสร้างพระอุโบสถ วัดศิลามงคล มีรายการดังนี้ ๑.เนื้อทองคำ ๑๙ เหรียญ ๒.เนื้อเงิน ๑๙๙ เหรียญ ๓.เนื้อนวโลหะ ๙๙๙ เหรียญ กับแบบพิมพ์ตื้น ๒,๕๑๙ เหรียญ ตอกโค้ด หมายเลขกำกับทุกองค์ ๔.เหรียญรูปไข่ ๒,๕๐๐ เหรียญ องค์นี้ ของเจ้าถิ่น สมาชิกสภาจังหวัดบอมบ์ เมืองน่าน พระรูปเหมือนสี่เหลี่ยม เนื้อทองคำ พ.ศ.๒๕๑๙ หลวงพ่อวัดดอนตันออกวัดศิลามงคล ของ สมาชิกสภาจังหวัดบอมบ์ เมืองน่าน.สุดท้ายเป็น กลองตะโพน งาแกะ หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ อ่างทอง ๑ ในเครื่องรางสร้างชื่อ ไล่เรียงมากับ เบี้ยแก้ เครื่องรางอันดับ ๑ ของเมืองอ่างทอง มีเรื่องเล่าถึงเหตุการสร้าง กลองตะโพน เป็นเครื่องรางของขลังว่า เมืองอ่างทองได้ชื่อว่าเป็นเมืองลิเก มีคณะลิเกมีชื่อเสียงมากกว่าเมืองใด ส่วนใหญ่หัวหน้าคณะก็เป็นศิษย์ หลวงพ่อภักตร์ ครั้งหนึ่งต้องนำคณะที่มีชื่อเสียงระดับจังหวัดไปแสดงประชันกับคณะลิเกที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ โดยใช้จำนวนคนดูเป็นการตัดสินแพ้-ชนะ ด้วยความวิตกในชื่อเสียงคู่แข่งที่มีเหนือกว่าหัวหน้าคณะได้มาปรึกษาขอให้หลวงพ่อช่วย ท่านจึงให้เอา กลองตะโพน ที่จะใช้ในงานมาให้ท่านลงอักขระเสกกำกับ ลูกศิษย์ก็ดีใจทำตาม โดยบอกเคล็ดลับให้ตีกลองตะโพนนี้พร้อมระนาดโหมโรงก่อนคู่แข่ง และอย่าหยุด….. ลูกกลองตะโพน งาแกะ หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ ของเบิ้ล ท่าพระจันทร์.เมื่อถึงวันแข่งขันก่อนเริ่มงานลูกศิษย์ก็ทำตามปรากฏว่าคนดูมาตามเสียง แน่นขนัด เมื่อลิเกเริ่มเล่นก็ไม่ยอมย้ายไปดูคณะคู่แข่ง ทำให้เกิดเสียงร่ำลือว่าหลวงพ่อลงอักขระเสกกลองตะโพนได้เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์นัก ทำให้มีคณะลิเกนำกลองตะโพนไปให้ท่านลงอักขระปลุกเสกกันมาก จนท่านทำให้ไม่ไหว จึงคิดสร้าง ลูกกลองตะโพนงาแกะไม้แกะ ออกเป็นเครื่องรางของขลังไปใช้แทน ซึ่งก็ได้ผลเป็นที่ประจักษ์ ได้รับความนิยมมาก ได้ชื่อเป็นเครื่องรางที่มีอานุภาพทางเมตตามหานิยมสูงเยี่ยม ปัจจุบันเป็นเครื่องรางของขลังชั้นนำ ที่ศิลปินดารานักแสดงแสวงหากันสุดๆ โดยเฉพาะที่เป็นเนื้องาแกะ อย่างในภาพนี้ ของ เสี่ยเบิ้ล ท่าพระจันทร์…..มาถึงเรื่องปิดท้าย สไตล์สนามพระวิภาวดี ของ เสี่ยเรืองชัย พ่อค้าพระเครื่องขาจร นอกวงการ ตระเวนเปิดแผงพระให้เช่าไปกับคาราวานตลาดนัด ย้ายไปตามสถานที่ต่างๆ โดยมีนายทุนชื่อ เสี่ยซ้ง เจ้าของร้านขายยา ที่ชอบพระเครื่อง ของขลังมาก ซึ่งเป็นจุดใจอ่อนยอมให้ เสี่ยเรืองชัย ใช้เป็นช่องทางผัดผ่อนชำระหนี้ได้เรื่อยมา ล่าสุดเมื่อเดือนก่อน หลังจากโดนทวงหนี้อย่างจริงจังมาสองครั้ง ต้องใช้วิธีผัดผ่อน โดยครั้งแรกยอมเอา พระปิดตาปลดหนี้หลวงปู่โต๊ะ ไปกำนัล ครั้งที่ ๒ เอา พระพุทโธ แม่ชีบุญเรือน ไปให้ จึงผัดหนี้ได้เป็นปี…..ถึงครั้งที่ ๓ นี้ โดน เสี่ยซ้ง ยื่นคำขาดให้รีบใช้หนี้ ก็ยังทำใจดีสู้เสือไปหา เสี่ยซ้ง ที่เห็นหน้าก็รู้ทันทีว่าไม่มีเงินมาใช้หนี้ จึงแกล้งพูดว่าเอาพระเอาชีมาผัดหนี้อั๊วไปสองครั้งแล้ว ครั้งนี้คงไม่มีอะไรมาใช้ผัดหนี้อีกแล้วนะ เสี่ยเรืองชัย โดนพูดดักคอก็ทำหน้าจ๋อย แต่บอกว่ายังพอมี ดีกว่าพระ เหนือกว่าชี ครั้งนี้เป็น ฤๅษี หลวงพ่อชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์ กำลังดังครับเสี่ย ตอนแรก เสี่ยซ้ง ฟังแล้วส่ายหน้า แต่พอเห็นก็ชอบ ยอมรับไว้ ให้ผัดหนี้ไปอีกครั้ง พอดี เมียเสี่ยซ้ง เดินมาได้ยินก็ถาม เสี่ยซ้ง ว่า ลื้อยอมเขาอีกแล้วใช่ไหม บ้านมีแต่พระใช้หนี้แทนเงิน แบบนี้จะได้เตรียมตัวเปลี่ยนจากเมียเจ้าของร้านขายยาเป็นเมียเจ้าของร้านพระเครื่อง เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.สีกาอ่างคลิกอ่านคอลัมน์ “สนามพระ” เพิ่มเติม