Thursday, 19 December 2024

โฟกัส "เศรษฐา" ปรับ คณะรัฐมนตรีใต้เงาจันทร์ส่องหล้า : อำนาจไฟต์บังคับ "นายใหญ่" คุมเดิมพัน

สงกรานต์ซา จบเทศกาลแห่งความสุข กลับมาสู้ชีวิตกันตามวิถีปกติผจญกับสารพัดวิกฤติที่แฝงอยู่เต็มไปหมด ตามสัญญาณ หายนะ “โลกเดือด” ปรากฏการณ์โคตรพายุฝนถล่มมหานคร ดูไบ อุทกภัยน้ำท่วมเมืองทะเลทรายเสียหายหนักฉากหลอน ธรรมชาติกำลังเอาคืนที่โดนมนุษยชาติรังแก แม้แต่ประเทศไทยก็เจอเต็มๆกับคลื่นความร้อนมหาโหดจากภาวะเรือนกระจก ท่ามกลางฝุ่นควันพิษ PM ๒.๕ ปกคลุมเมือง โดยเฉพาะสถานการณ์หนักสุดที่จังหวัดเชียงใหม่ สภาพอากาศแย่สุด ติดอันดับหนึ่งของโลกฝุ่น PM ๒.๕ ยังวิกฤติหนักหลังสงกรานต์ และที่แทรกคิวมาเติมจุดความร้อนชายแดนด้านจังหวัดตาก ลากยาวไปตามแนวตะวันตก สถานการณ์สู้รบระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยูล่อแหลมต่อความมั่นคงเศรษฐกิจการค้าในภูมิภาคของไทยแนวรบชายแดนตะวันตกไฟยังระอุ แถมอีกด้านแนวรบตะวันออกกลางก็ปะทุหนัก “พี่ใหญ่” โลกมุสลิม อิหร่าน ฟาดกับอิสราเอล “เด็กเส้น” ในคาถาของพี่เบิ้มสหรัฐอเมริกา กลุ่มชาติตะวันตกติดดาบตะลุมบอน สั่นคลอนเศรษฐกิจโลก เศรษฐา ทวีสินอุณหภูมิเดือดๆจากสงคราม ลามมาเติมจุดความร้อนทางเศรษฐกิจ วิกฤติปากท้องที่จ่อถล่มประชาชนคนไทย เบนซินแก๊สโซฮอล์ปรับขึ้นรายวัน น้ำมันดีเซลไหลทะลักเกินลิตรละ ๓๐ บาท กระเทือนต้นทุนภาคขนส่ง หนีไม่พ้นลามถึงราคาสินค้าและบริการ ภาระตกอยู่กับชาวบ้านตาดำๆไข่ไก่ ไข่เป็ด มะนาว อั้นไม่ไหว พาเหรดกันขึ้นราคาซ้ำด้วยบิลค่าไฟฟ้าหน้าร้อนที่พุ่งตามแรงแอร์กับพัดลม อารมณ์ประชาชนรากหญ้าเลือดตาแทบกระเด็นเงินในกระเป๋าร้อนกว่าอากาศ เอาตัวรอดผ่านกลางปีนี้ได้ก็สาหัสเต็มทีเพื่อความหวังคิวเทกระจาด “เงินหมื่น” ช่วงปลายปีตามโปรแกรมนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง นำทีมตั้งโต๊ะแถลงข่าวใหญ่ ตีปี๊บข่าวดีก่อนสงกรานต์ การันตีโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เดินหน้าเต็มเกียร์เข้าโค้งแบบไม่แตะเบรก ลุยเทกระจาดงบฯมหาศาล ๕ แสนล้านยืม โยก ดึง เลี่ยงการกู้ ไม่กลัวติดเงี่ยงกฎหมายแต่นั่นก็ไม่วายโดนดักทาง เสียงขู่จากฝ่ายต่างๆรุมกระตุกขากางเกงนายกฯตัวสูงๆให้ระวังเสี่ยงคุก โดยเฉพาะการซิกแซ็กยืมจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน ๑๗๒,๓๐๐ ล้านบาทไม่ว่าจะเล่นแร่แปรธาตุกันยังไง ก็เสียวเข้าตำรา “ศรีธนญชัย” ตายตอนจบ ศิริกัญญา ตันสกุลยิ่งฟอร์มรัฐบาลออกแนวทำไปแก้ไป ยิ่งอันตราย แบบที่ “ด็อกเตอร์ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ กัปตันทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล อมยิ้มบอกไม่ตื่นเต้น เพราะดักทางถูกเผง รัฐบาลต้องเล่น “ท่ายาก” ในการเดินหน้าเรือธง ไฟต์บังคับทางการเมืองตามท้องเรื่องที่กัปตันทีมเศรษฐกิจค่ายส้ม ไม่ขวาง แถมยังหนุนให้รัฐบาลรีบกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซึมกะทือ แต่ยังคาใจในรายละเอียดปลีกย่อย โดยเฉพาะเรื่องของการออกแบบ “ซุปเปอร์แอปฯ” รองรับการจ่ายเงินที่ต้องลงทุนมหาศาล ความยุ่งยากของการใช้เงิน ขึ้นเงิน เพราะเป็นประเทศแรกๆของโลกที่ทำแบบนี้จึงไม่เชื่อว่า เงินหมื่นดิจิทัลฯจะเทกระจาดกันได้ทันในปลายปี ๖๗แต่ที่มีน้ำหนักมากจริงๆก็น่าจะอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตามการแถลงอย่างเป็นทางการ โดย น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการแบงก์ชาติธปท.แสดงความห่วงใยหลายประเด็นที่เกี่ยวกับโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยเฉพาะแหล่งที่มาของเงิน เพราะเม็ดเงินที่ใช้ในโครงการต้องมีครบถ้วนในวันที่เริ่มต้น โครงการ เพื่อให้เป็นตาม พระราชบัญญัติเงินตรา ไม่ให้กระทบต่อเสถียรภาพทางด้านสภาพคล่องนอกจากนี้ กลุ่มเป้าหมาย ธปท.มีจุดยืนว่า ต้องการให้ทำเฉพาะกลุ่ม เพื่อให้สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ“แบงก์ชาติ” ย้ำจุดยืนแน่นๆ ไม่แห่ตามคิวเทกระจาดของรัฐบาลทั้งหมดสอดคล้องกับท่าทีของนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. ที่ไม่ปรากฏตัว ร่วมวงคณะกรรมการดิจิทัลฯ ต่อเนื่องถึงช็อตแถลงข่าวใหญ่ อาการเหวี่ยงๆแบบที่นายเศรษฐา ถามหาผู้ว่าการแบงก์ชาติดังๆ ๒–๓ รอบคำตอบชัดเจนโดยท่าทีที่หน้าตึงใส่กัน นั่นยังรวมไปถึงจังหวะต่อเนื่อง ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีผู้ว่าการ ธปท.นั่งหัวโต๊ะ มีมติ ๕ ต่อ ๒ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ ๒.๕สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจตึงเครียดทุกระดับ สภาพ “กับดัก” เต็มไปหมด ทั้งแรงเสียดทานในสนามการเมือง แรงเฉื่อยในดงข้าราชการประจำ แรงฉุดจากนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ด่านหินสุดก็คือกำแพง “วังบางขุนพรหม” สถานะแบงก์ชาติที่มี “เกราะกำบังหนาพิเศษ” ป้องกันฝ่ายการเมืองเข้าไปยุ่มย่ามกับทุนสำรอง ป้องกันขุมทรัพย์ปู่โสมของแผ่นดิน จากบทเรียนที่พรรคการเมืองเอาเงินหลวงไปซื้อเสียง ตีกินคะแนน นิยมกันสบายมือมันคือ “เส้นแบ่งแดนที่มองไม่เห็น” ระหว่างตัวแทนทุน “อีลิต” ชนชั้นนำ กับตัวแทน “พ่อค้า” ธุรกิจการเมือง กติกาตามประเพณีปฏิบัติแบบไทยๆโจทย์ยากเกินฟอร์ม “มือใหม่หัดขับ” ผู้นำ “เดอะเซลส์แมน” ทักษิณ ชินวัตรภายใต้แรงกดดันผ่าน ๗ เดือน ยังไม่มีอะไรจับต้อง ได้เป็นชิ้นเป็นอัน กับฟอร์มของทีมงานยี่ห้อ “ทักษิณ” รัฐบาลผสมสูตรพิสดารพรรคเพื่อไทย ที่เคลมตีกินการบริหารเศรษฐกิจ แต่ปั่นผลงานไม่ออกตามคำสารภาพที่ออกจากปากของนายเศรษฐาเอง ถือโอกาสแถลงเปิดใจช่วงสงกรานต์ ยอมรับยังไม่พอใจกับผลงานของรัฐบาลที่ยังบริหารแบบติดๆขัดๆ จำเป็นต้องเร่งยกระดับเชิงบริหารแต่นั่นก็เป็นการออกมาตามหลัง ช้ากว่าคนสำคัญที่ประเมินผลอารมณ์ “เถ้าแก่ใหญ่” นาย อดีต “นายกฯในตำนาน” ให้สัมภาษณ์นักข่าวหน้านิ่ว คิ้วขมวด หลังเปิบข้าวมันไก่ร้านดังที่เชียงใหม่ แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นแต่ก็แสดงอาการมั่นใจ การันตีคิวเทกระจาดเงินหมื่นดิจิทัลฯจะกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเป็นการอัดฉีดเงินในระบบที่มีไม่เพียงพอหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจ ให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อได้ เพราะหลายฝ่ายเป็นห่วงแต่ธนาคาร เงินจึงถูกดูดออกไปเยอะเลย ไม่มีเงินที่จะให้กู้รัฐบาลอาจจะเพิ่มหนี้ชั่วคราว แต่ก็มีตัวเลขลดหนี้ เพิ่มทางหนึ่งและลดทางหนึ่ง ทุกอย่างก็จะเจ๊ากันไป“เถ้าแก่ใหญ่” โชว์ลูกเขี้ยวเชิงธุรกิจ กระตุกความเชื่อมั่น ช่วยรัฐบาลเจ้าตำรับโคตรประชานิยมตัวพ่อ ฟื้นความขลังยี่ห้อ “ทักษิณ” จับน้ำเสียงเหมือนตั้งใจส่งสัญญาณกระแทกกลับ ไปถึงแบงก์ชาติที่เน้นตรึงอัตราดอกเบี้ย ไม่แห่ตามคิวเทกระจาดดิจิทัลฯของทีมเพื่อไทยในลีลาเก๋าๆฟอร์มของผู้ผ่านประสบการณ์เย้ยฟ้าท้าดิน ตายแล้วฟื้นเป็นแมวเก้าชีวิต “ทักษิณ” คือคนเดียวในปฐพีที่กล้าคิดกล้าทำหากถึงจุดต้องวัดดวง วิ่งชนกำแพงวังบางขุนพรหมถึงจุดที่ “ทักษิณ” โดดคุมคิวเทกระจาดเงินหมื่นดิจิทัลฯเอง งัดต้นทุนหน้าตักเชิงบริหารเศรษฐกิจที่สั่งสมไว้ในอดีต ประคองรัฐบาลเดินหน้าเรือธงในจังหวะที่ “นายใหญ่” สำแดงพลัง “ศูนย์อำนาจจันทร์ส่องหล้า” ของแท้ สุทิน คลังแสง“รวบตึง” การบริหารจัดการอำนาจการเมือง ปรากฏการณ์แบบที่ช่างบังเอิญจงใจ โผปรับ คณะรัฐมนตรีถูกร่อนออกมาจากแหล่งข่าวระดับปึ้กของพรรคเพื่อไทย เป็นข่าวพาดหัวใหญ่ ในเวลาไล่เลี่ยกับที่ “นายใหญ่” นั่งเครื่องเจ็ตส่วนตัวไปสงกรานต์ที่บ้านเกิดมันเป็นอะไรที่ดังยิ่งกว่าเสียงรัว “เคาะกะลา”นำมาซึ่งสภาพการจราจรหนาแน่น ถนนทุก สายมุ่งสู่เชียงใหม่ ไม่สนวิกฤติฝุ่นควันพิษ PM ๒.๕เบียดกันเข้าคอขวด ต่อแถวยาวเหยียด โผล่เสนอหน้ากันสลอน เช็กชื่อรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยแห่ไปร่วมรดน้ำดำหัวนายใหญ่ ขาดไปแค่ ๔ คนที่ต้องแจ้งลากิจแบบลำบากใจแต่ที่เป็นตายยังไงก็ไม่ยอมพลาด พวกที่มีชื่ออยู่ในโพยโดนเด้งเก้าอี้ไล่ตั้งแต่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข “บิ๊กทิน” นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกลาโหม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรฯ “เจ๊แจ๋น” นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯรวมถึง “น้องปุ๋ง” น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวฯ ที่ไม่เก๋าพอขึ้นชุดใหญ่ มือยังไม่ถึงชั้นคุมกระทรวงเกรดเอ นั่นไม่เท่ากับฟอร์มไม่เข้าขากับ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ทำซอฟต์พาวเวอร์แป้ก“โผแรก” จัดอยู่ในบัญชีดีหนึ่งประเภทหนึ่งหมายถึงถูกตัดเกรดมาเป็นอย่างดี ก่อนปล่อยโพยออกมานำร่อง ต่อให้โชว์พลังหนุน เด็กเจ๊แดง สายน้องปู เส้นหนานายทุนรถไฟฟ้ามาหานะเธอ แต่ถ้ารู้สไตล์ “นายใหญ่” ไม่ชอบการต่อรอง เขม่นคนทาบบารมีกฎเหล็กประมุขจันทร์ส่องหล้า เกรงใจแค่คนเดียวคือ “นายหญิง”คิวปรับ คณะรัฐมนตรีตามกติกาเวียนม้าหมุนครบรอบ ๖–๗ เดือน “เถ้าแก่ใหญ่” ไม่ต้องเสียเวลาคิดนาน สัญญาณแรงแบบที่ “ผู้นำในตำแหน่ง” ต้องเด้งรับเพราะไฟต์บังคับอำนาจ “ทักษิณ” ต้องแบกเดิมพันหนักอึ้ง จำเป็นต้องปรับเชิงบริหาร เร่งฟื้นแต้มที่ล้มละลายจากการตระบัดสัตย์ตั้งรัฐบาลข้ามขั้วนับวันจะโดนทีมเด็กรุ่นใหม่ ค่ายก้าวไกลทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่นสภาพ “นายใหญ่” ต้องประคองตัว ถือดุลต่อรอง “ดีลลังกาวี” ที่ยังพร้อมพลิกได้ทุกจังหวะ ตามเงื่อนไขการแชร์ผลประโยชน์และอำนาจไม่ลงตัวต้องรีบอุ้ม “น้องปู” อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับบ้าน แบบที่จุดพลุนำร่อง ล็อกวัน ว. เวลา น. ล้อแตะ รันเวย์สนามบินดอนเมืองเดือนตุลาคมปีนี้โอกาสที่เกมอำนาจร้อนยังอยู่ในกำมือ “ทักษิณ” ไม่มีเวลาคิดเยอะ.“ทีมการเมือง”คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม