Thursday, 19 December 2024

จัดทีมพยาบาล ช่วยเหยื่อสงคราม อพยพลี้ภัยทะลักกว่า ๓ พัน โดรนถล่มฆ่านายพลพม่า

22 Apr 2024
98

แผ่นดิน “กอทูเล” ลุกเป็นไฟ กองทัพเมียนมาไม่ยอมจำนน ส่งเครื่องบินโจมตีถล่มต่อเนื่องทั้งคืน แต่ทหารกะเหรี่ยงยึดชัยภูมิได้ดีกว่า ปักหลักตอบโต้หนักหน่วงใช้โดรนติดระเบิดลุยเผด็จศึก บาดเจ็บล้มตายเกลื่อนทั้งสองฝ่าย ลือสะพัดหนึ่งในนั้นมีนายพลเมียนมาสิ้นชีพด้วย ขณะที่ชาวบ้านหนีตายโกลาหล อุ้มลูกจูงหลานข้ามลำน้ำเมยเข้ามาฝั่งไทยร่วม ๓ พันคน “รพ.แม่สอด” รับมือไม่ไหวประกาศภาวะฉุกเฉินระดมแพทย์-พยาบาลช่วยชีวิตเหยื่อสงคราม “บิ๊กทิน” ยันไม่มีอะไรน่าวิตก กองทัพไทยควบคุมสถานการณ์ได้ จ่อลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกำลังพลตามหลังนายกฯทันทีชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ หลังทหารกะเหรี่ยงฝ่ายต่อต้านระดมสารพัดอาวุธโจมตีทหารกองทัพเมียนมากว่า ๒๐๐ นาย ที่แตกพ่ายจากค่ายผาซอง กองพัน ร.๒๗๕ และกองพล ร.เบาที่ ๔๔ เมียวดี มาหลบซ่อนตัวอยู่ในที่ทำการด่านพรมแดนถาวรเมียวดีแห่งที่ ๒ บ้านเยปู่ อ.เมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ ๒ บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ ๗ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ห่างแนวชายแดนราว ๑.๕ กม. และอยู่ห่างจากด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ ๑ บ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ประมาณ ๔ กม. ผลการสู้รบทหารกะเหรี่ยงยึดพื้นที่ด่านเมียวดี ๒ ได้บางส่วนแล้ว แต่กองทัพเมียนมายังไม่ยอมจำนน ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศตลอดทั้งคืน ส่งผลให้ชาวเมียนมา ชาวกะเหรี่ยงและทหารของทั้ง ๒ ฝ่ายได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ต้องส่งตัวเข้ารักษาที่ รพ.แม่สอด กลางดึก จนเกินศักยภาพของแพทย์-พยาบาลจะรับมือได้ ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินสถานการณ์เมื่อเวลา ๐๙.๐๐ น. วันที่ ๒๑ เม.ย. ทหารกองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง KNLA ทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU และทหารกองกำลังพิทักษ์ประชาชน PDF หลายร้อยนาย พร้อมอาวุธสงครามและอาวุธหนัก ยังตรึงกำลังใกล้ด่านพรมแดนถาวรเมียวดีแห่งที่ ๒ จ.เมียวดี ปิดล้อมทหารกองทัพเมียนมาที่หลบอยู่ภายในพื้นที่ทำการด่านเมียวดี ๒ และยังปักหลักต่อสู้ไม่ถอยตลอดทั้งคืนจนถึงช่วงเช้า การสู้รบเป็นไปอย่างดุเดือด ทั้ง ๒ ฝ่ายระดมยิงอาวุธสงครามใส่กันไม่ขาดสาย สลับกับการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินโจมตีของกองทัพเมียนมา แต่ทหารกะเหรี่ยง ๓ ฝ่าย ยึดชัยภูมิได้ดีกว่า ชิงความได้เปรียบรุกคืบเข้าพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมทำ สงครามจิตวิทยาขู่ว่า หากทหารเมียนมาไม่ยอมจำนนวางอาวุธถ้าบุกเข้าไปได้จะสังหารทุกคนทิ้งมีข้อมูลจากแหล่งข่าวกะเหรี่ยง KNU แจ้งข่าวกันว่า จากการโจมตีด้วยโดรนติดระเบิดเมื่อคืนที่ผ่านมา มีทหารเมียนมาเสียชีวิตคาสนามรบหลายสิบคน ๑ ในนั้นมีบุคคลสำคัญคือ พลจัตวาโซมิน แท๊ต ผู้บัญชาการกองพล ๔๔ ที่ควบคุมดูแลค่ายผาซอง กองพันทหารราบที่ ๒๗๕ เมียวดี ถูกสังหารด้วย แต่ต้องรอยืนยันข้อมูลให้แน่ชัดอีกครั้ง ขณะที่เครื่องบินกองทัพอากาศเมียนมา บินทิ้งระเบิดรอบพื้นที่ปะทะหลายรอบ สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ส่วนภายในด่านเมียวดี ๒ ทหารเมียนมาที่เหลือรอดชีวิตยังปักหลักต่อสู้ยิบตา ท่ามกลางอาวุธและเสบียงที่ร่อยหรอลง ด้านกำลังกองหนุนที่กองทัพเมียนมาจัดส่งทหารราบพร้อมยานยนต์หุ้มเกราะติดอาวุธหลายสิบคัน ออกจากเมืองใกล้เคียงมุ่งหน้ามาช่วยเหลือนั้น มีรายงานว่าได้ถูกทหารกะเหรี่ยงสกัดกั้นไว้ก่อนจะมาถึงเส้นทางเข้าเมืองเมียวดีในช่วงสาย หลังเสียงระเบิดสงบลงผู้ได้รับบาดเจ็บจากพื้นที่ปะทะหลายสิบคน ส่วนใหญ่ถูกยิงและโดนสะเก็ดระเบิดถูกลำเลียงข้ามมาฝั่ง อ.แม่สอด เพื่อรักษาตัวแบบฉุกเฉินที่ รพ.แม่สอด จนต้องระดมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมรถกู้ชีพจากทุกหน่วยงาน ไปรับผู้ได้รับบาดเจ็บ กระจายไปรักษาตามโรงพยาบาลทั่วพื้นที่แนวชายแดน อ.แม่สอด เป็นการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมเบื้องต้น ขณะที่ทหารสั่งคุมเข้มไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพเด็ดขาด ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครอง อ.แม่สอด เข้าร่วมกับทหาร ฉก.ราชมนู กองกำลังนเรศวร รักษาความปลอดภัยรอบพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ๒ แห่ง ใน อ.แม่สอด และ อ.อุ้มผาง จ.ตาก มีผู้หนีภัยความไม่สงบเข้าพักอาศัยแล้ว รวม ๒,๘๐๙ คนผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวเมียนมาที่อพยพข้ามแม่น้ำเมยเข้ามาฝั่งไทย ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เด็กเล็ก และคนชรา โดยเฉพาะเด็กเล็กหลายคนมีอาการเจ็บป่วยจากสภาพอาการร้อนจัด ทีมแพทย์และอาสาสมัครหลายหน่วยงานต้องเข้าไปดูแลรักษาในพื้นที่โรงพยาบาลสนาม แต่หากผู้ป่วยอาการหนัก จะส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลใน อ.แม่สอด ส่วนที่ด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ ๑ เช้านี้ด่านยังเปิดตามปกติ บรรยากาศเงียบเหงา คนไทยและคนเมียนมาที่อยู่ในฝั่งเมียวดีแห่หนีข้ามด่านพรมแดนแม่สอดมาตั้งแต่เมื่อเย็นวานนี้ ส่วนที่ด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ ๒ ยังเปิดตามปกติเช่นกัน มีโชเฟอร์ขับรถขนส่งสินค้านับร้อยคันจอดรอเต็มลานจอดรถฝั่งไทย เนื่องจากไม่กล้าข้ามไปยังด่านพรมแดนเมียวดีแห่งที่ ๒ เพราะเกรงความไม่ปลอดภัยวันเดียวกัน นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบในเมียนมา ติดกับชายแดนไทย อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า การสู้รบมีความเข้มข้นขึ้น มีผู้หนีภัยสู้รบเข้ามาในประเทศไทย เราให้การช่วยเหลือ ตามหลักมนุษยธรรม ต้องดูแลทั้งสองฝ่าย แม้จะกระทบ กับเราบ้าง แต่ไม่มีอะไรน่าวิตก ในวันที่ ๒๓ เม.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการคลัง จะเดินทางไปที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลด้านความมั่นคง และภายใน ๑-๒ วันนี้ ตน จะลงพื้นที่เช่นกัน ระหว่างนี้ได้กำชับให้ทุกเหล่าทัพ รวมถึงฝ่ายปกครองดูแลประชาชนอย่างเต็มที่เมื่อถามว่ามีกระสุนที่เกิดจากการสู้รบตกมายังบ้านเรือนประชาชนฝั่งไทยนั้น นายสุทินกล่าวว่า จะต้องปรามและเตือน แม้จะทราบว่าเจตนาไม่ได้ทำร้ายเราแต่ต้องป้องกันเต็มที่ กองทัพอากาศได้นำเครื่องบินเฝ้าตรวจทางอากาศตลอดเวลา สามารถสกัดกั้นได้ทันที ขอให้ประชาชนในพื้นที่สบายใจได้ว่ากองทัพดูแลสถานการณ์ได้ เราเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ในบางเรื่องอาจสุดวิสัย ส่วนรายงานด้านการข่าวน่าจะยังคงสู้รบกันไปอีกสักระยะอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่