Thursday, 19 December 2024

กรมการปกครอง ขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนในการบริการทำบัตรฯ ของสำนักทะเบียน

23 Apr 2024
146

เมื่อวันที่ ๒๒ เม.ย. ๒๕๖๗ ปรากฏข่าวสื่อสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่ข้อความกรณีมีประชาชนเดินทางไปที่ว่าการอําเภอเพื่อติดต่อทำบัตรประจำตัวประชาชน แต่ไม่สามารถทำได้ โดยทางอำเภอมีป้ายประชาสัมพันธ์งดให้บริการ เนื่องจากวัสดุที่ใช้ในการจัดทําบัตรประจําตัวประชาชนมีจํานวนจํากัด และได้มีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียเข้ามาแสดงความเห็นว่าพบปัญหาดังกล่าวในที่ว่าการอําเภอหลายแห่งทั่วประเทศนั้นกรมการปกครอง ต้องขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนในการบริการดังกล่าวฯ และขอชี้แจงถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น เนื่องด้วยก่อนห้วงระยะเวลาตามที่ปรากฏเป็นข่าว กรมการปกครองได้ดำเนินการจัดซื้อบัตรประจำตัวประชน (Smart Card) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๘,๕๐๓,๔๒๖ บัตร โดยวิธีการประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์เสร็จสิ้นตามขั้นตอนแล้ว แต่เนื่องจากก่อนการส่งมอบตามสัญญาจะต้องนำบัตรฯ ไปทดสอบเกี่ยวกับมาตรฐานของวัสดุบัตรกับกรมวิทยาศาสตร์บริการ และบริษัทโทรคมนาคม แห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ให้เป็นไปตามข้อกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของงานการจัดซื้อบัตรประจำตัวประชาชนที่ออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์แบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ก่อนการส่งมอบบัตรให้แก่กรมการปกครอง ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ดังนั้น จึงทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของสำนักทะเบียนบางแห่งเกิดความกังวลว่าจะมีวัสดุบัตรไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ซึ่งตามข้อเท็จจริงในห้วงระยะเวลาที่ปรากฏเป็นข่าวสำนักทะเบียนทุกแห่งทั่วประเทศยังคงมีบัตรให้บริการแก่ประชาชนผู้ประสงค์ขอทำบัตรอย่างไรก็ตาม กรมการปกครองได้ดำเนินการเกี่ยวกับกระบวนการดังกล่าวข้างต้นเสร็จสิ้น และได้รับมอบบัตรตามสัญญา พร้อมทั้งได้ส่งมอบบัตรฯ ให้แก่สำนักทะเบียนทุกแห่งทั่วประเทศแล้วตั้งแต่วันที่ ๑๐ เม.ย. ๒๕๖๗ เป็นต้นมา ซึ่งสถิติในการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนทั้งประเทศเฉลี่ยเดือนละ ๘๐๐,๐๐๐ – ๙๐๐,๐๐๐ บัตร ซึ่งบัตรที่กรมการปกครองจัดซื้อตามจำนวนดังกล่าวข้างต้นสามารถมีบัตรใช้ได้จนถึงประมาณเดือน ก.พ. ๒๕๖๘ ดังนั้น กรมการปกครองจึงมีวัสดุบัตรสนับสนุนให้แก่สำนักทะเบียนทุกแห่งทั่วประเทศได้อย่างเพียงพอทั้งนี้ หากประชาชนไปติดต่อขอรับบริการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนแล้วมีปัญหาข้อขัดข้อง หรือไม่ได้รับความสะดวกในการขอรับบริการ สามารถแจ้งเหตุได้ที่ สายด่วน ๑๕๔๘ หรือ โทรศัพท์หมายเลข ๐-๒๗๙๑-๗๑๒๔