วัคซีน “ฝีดาษลิง” ล็อตแรกจำนวน 100,000 โดสที่ผลิตโดยบริษัทของเดนมาร์ก ถูกส่งถึงเมืองหลวงของคองโกแล้ว นับเป็นเวลา 3 สัปดาห์หลังจากองค์การอนามัยโลก ประกาศให้การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงใน 12 ประเทศแถบแอฟริกาเป็นภาวะฉุกเฉินระดับโลกเมื่อวันที่ 5 ก.ย.2567 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ดร.โรเจอร์ กัมบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของคองโกได้รับมอบวัคซีน “MVA-BN” ป้องกันโรคเอ็มพ็อกซ์ หรือฝีดาษลิง จำนวน 100,000 โดส ที่ผลิตโดยบริษัท บาวาเรียน นอร์ดิก ของเดนมาร์ก ซึ่งบริจาคผ่านสหภาพยุโรป โดยองค์กร HERA หน่วยงานด้านเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโดยวัคซีนถูกส่งถึงสนามบินในกรุงกินชาซา เมืองหลวงของคองโกเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 5 ก.ย. นับเป็นเวลานานถึง 3 สัปดาห์หลังจากองค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงใน 12 ประเทศแถบแอฟริกาเป็นภาวะฉุกเฉินระดับโลก ทางการคองโกระบุว่า คาดว่าวัคซีน MVA-BN ล็อตที่ 2 อีกจำนวน 100,000 โดสจะถูกส่งถึงคองโกในวันเสาร์นี้ ขณะที่ทางองค์การยูนิเซฟจะช่วยรับผิดชอบการรณรงค์ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนได้เมื่อไหร่ ทางด้านดร. จีน คาเซยา หัวหน้าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ พันธมิตรตะวันตก อาทิ สหภาพยุโรป และสหรัฐฯ สัญญาว่าจะบริจาควัคซีน MVA-BN ให้แก่คองโก เป็นจำนวน 380,000 โดส ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังน้อยกว่า 15% ของปริมาณ 3 ล้านโดสที่มีการประเมินว่าจำเป็นต้องใช้เพื่อยุติการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในคองโก ซึ่งเป็นศูนย์กลางของภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขทั่วโลกทั้งนี้ สถานการณ์ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว องค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่า มีผู้ป่วยฝีดาษลิงมากกว่า 22,800 ราย และผู้เสียชีวิต 622 ศพในแอฟริกา โดยเป็นการติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 200% ในสัปดาห์ที่แล้วขณะที่หลังจากการระบาดใหญ่ของฝีดาษลิงทั่วโลกครั้งที่แล้วในปี 2565 ประเทศที่ร่ำรวยทั้งสหรัฐฯและในยุโรปได้ระดมวัคซีนเข้าคลังและเร่งนำออกฉีดวัคซีนป้องกันให้แก่ประชาชนในประเทศตัวเอง ทำให้มีวัคซีนปริมาณไม่เพียงพอที่จะส่งไปถึงแอฟริกา ซึ่งเป็นพื้นที่แพร่ระบาดหนัก แม้ว่าจะมีการร้องขอจากรัฐบาลของประเทศต่างๆก็ตาม.
